กทม.8 ก.พ.-กทม.ยื้อคุมรถไฟฟ้า “สายสีเขียว” เตรียมหาผู้ร่วมทุนโครงการ ยันเดินรถสถานีแบริ่ง-สำโรง ภายในปีนี้แน่นอน
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมสามัญ สมัยที่ 1 (ครั้งที่ 4) ประจำปี 2560 โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. และคณะผู้บริหารเข้าร่วมประชุม โดยมีวาระการยื่นญัติรายงานผล และขอความเห็นชอบในหลักการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พร้อมขอจัดสรรงบประมาณ
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวในที่ประชุมว่า โครงการนี้เป็นเรื่องที่ผู้บริหารชุดก่อน ได้ดำเนินการไว้เกี่ยวกับการรับโอนตามข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และกทม. โดยรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายเหนือและสายใต้ ต้องรับโอนหนี้สินมาด้วย ซึ่งในช่วงนั้นตนเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.จึงไม่ได้ดูเรื่องนี้ แต่งบประมาณโครงการนี้มีจำนวนมาก ทางสภากทม.คงไม่สบายใจที่ต้องอนุมัติงบประมาณ และเป็นความอึดอัดของ สภากทม.แต่ตนต้องมารับช่วงต่อในการพิจารณารับโอนเรื่องหนี้ จำนวน 3,500 ล้านบาทให้กับ รฟม.จึงอยากให้ฝ่ายสภากทม.ได้รับรู้กรณีนี้ โดยฝ่ายบริหารปรึกษาหารือกันว่า อย่างไรก็ตาม ให้สภากทม.พิจาณาตามความเหมาะสม เป็นดุลยพินิจของสภากทม. ส่วนมติจะผ่าน หรือไม่ผ่านนั้น ตนไม่มีปัญหา
หลังจากนั้นสมาชิกสภากทม.ร่วมกันอภิปรายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องการใช้งบประมาณ การจ้างการเดินรถ ซึ่งสภากทม.ต้องยึดในข้อกฎหมายว่าส่วนใดสามารถดำเนินการได้หรือไม่ได้ เพราะประเด็นนี้ยังไม่ตกผลึกในวิป ระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายสภา แต่ทางฝ่ายบริหารก็ยื่นเรื่องนี้เข้ามาวันนี้แล้ว ทางฝ่ายสภากทม.ต้องมีข้อมูลเพื่อหา ทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ว่า กทม.มีความสามารถในการดูแลโครงการนี้หรือ ไม่ เพราะจะมีวงเงินที่กทม.ต้องผูกพันเกือบแสนล้านบาท ตามเอ็มโอยูที่ได้ทำไว้ อีกทั้งในเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจว่าใครจะเป็นเจ้าของ ซึ่งโครงการนี้ต้องเปิดให้ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่ว่ารัฐบาลจะเลือกใช้งบจาก รฟม. หรือ กทม.
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวภายหลังการประชุม ว่า สภากทม.ระบุว่า ไม่มีอำนาจที่จะให้ความเห็นชอบงบประมาณ ตามที่ฝ่ายบริหารเสนอเข้าที่ประชุม ตาม พ.ร.บ.บริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 29 ซึ่งฝ่ายบริหารขอบคุณทุกข้อแนะนำ จากนี้ฝ่ายบริหารกทม.จะนำไปทบทวนและแก้ไขว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งในข้อเท็จจริง กทม.ต้องรับโครงการมาบริหารแต่ต้องมีการหาผู้ร่วมทุน ซึ่งอาจจะเป็นบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เพราะไม่ใช่เงินจำนวน 3,557 ล้านบาทเพียงอย่างเดียว จะมีงบผูกพันอีก 8-9 หมื่นล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในอนาคต และตั้งแต่ปี2572 รายได้จากค่าโดยสารจะเป็นของกทม. ซึ่งจะมีความคุ้มทุน อย่างไรก็ตาม การเดินรถในสถานีแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเปิดให้บริการประชาชนในปีนี้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (9ก.พ.) เวลา 13.00 น.คณะกรรมการจัด ระบบการจราจรทางบก (คจร.) จะมีการประชุมผลการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การมอบหมายให้ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม .-สำนักข่าวไทย