ตร.ยันชายในคลิปทะเลาะสาวทอมไม่ใช่ ตร.


ภูเก็ต 16 พ.ย.- ชายสูงอายุภูเก็ต ในคลิปทะเลาะวิวาทกับเด็กที่จอดรถขวางทางออก เข้าแจ้งความ สภ.ฉลอง ด้าน ตร.ยันชายในคลิปไม่ใช่ ตร. พร้อมดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย 

16-11-2559 23-15-26 16-11-2559 23-16-13


เมื่อช่วงสายวันนี้ (16 พ.ย.) มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กไปยังเพจ “ขับรถแบบนี้ต้องประจาน ภูเก็ต” โดยในคลิปเป็นชายสูงอายุกำลังมีปากเสียงกับเด็ก ซึ่งชายสูงอายุเกิดอารมณ์โมโหเกี่ยวกับการจอดรถของเด็กคนดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเป็นรถส่งของ โดยไปจอดปิดท้ายรถของชายสูงอายุ ทำให้ถอยรถไม่ได้ จึงเริ่มมีปากเสียงกัน จากนั้นชายสูงอายุอ้างว่าเด็กยืนมองหน้า เหมือนจะหาเรื่อง พร้อมกับสั่งให้เด็กยกมือไหว้ขอโทษ แต่เด็กคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด จึงไม่ยกมือไหว้ โดยชายสูงอายุดังกล่าวอ้างว่าจะรีบไปเข้าเวร พร้อมกับจะนำตัวเด็กที่มีปากเสียงไปโรงพัก ซึ่งในคลิปมีการเถียงกันอยู่พักใหญ่ แต่ไม่ได้มีการระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด และที่ใด

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ ชายสูงอายุที่ปรากฏในคลิป ได้เดินทางเข้าแจ้งความ และพบกับ พ.ต.อ.ชูเกียรติ์ อิ่มใจธรรม ผกก. สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) เวลาประมาณ 14.45 น. ตนได้ถอยรถออกจากบ้านพักได้มีชายไทย ขับรถมาขวางที่ประตูบ้านพัก ซึ่งได้สั่งให้คนขับถอยรถออกจากหน้าบ้าน จากนั้นได้มีผู้หญิงเหมือนทอม 2 คน ได้มาต่อว่า และถ่ายรูปรถของตน และทราบว่าผู้ที่จอดรถขวางประตูบ้านได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้ตนเกิดความเสียหาย จึงเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับคู่กรณีจนถึงที่สุด ในข้อหาหมิ่นประมาท ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ชายสูงอายุ กล่าวว่า ไม่เคยเบ่งว่าเป็นตำรวจ เพียงบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษา และเป็นเจ้าของเต็นท์รถ เค้าเอาไปเขียนเอง เอาไปขยายความเองว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าเป็นตำรวจ หากเขาเลื่อนรถให้ก็ไม่มีปัญหาอะไร คนขับเขาจะเลื่อนรถออกจากหน้าบ้านแล้ว แต่ทอมคู่กรณี บอกว่าไม่ต้องถอย ผมก็บอกว่าหากเป็นแบบนี้ไปคุยกันที่โรงพักดีกว่า


อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ชูเกียรติ์ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ชี้แจงว่าหลังจากที่คลิปได้เผยแพร่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนว่าเจ้าของคลิปเป็นใครเบื้องต้นทราบเป็นพนักงานบริษัทรับขนส่งกระเป๋านักท่องเที่ยวที่สนามบินภูเก็ต กำลังให้ประสานงานมาทำการสอบสวนอยู่ ส่วนชายในคลิป เจ้าหน้าที่สืบทราบแล้วว่าเป็นนักธุรกิจ วัย 52 ปี ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด แต่จากคำพูดอาจทำให้คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย ข้อหาทะเลาวิวาทในที่สาธารณะตามกฎหมาย ส่วนเรื่องความผิดหมิ่นประมาท หรือความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่นั้น ต้องทำการสอบสวนคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย และสอบสวนพยานต่างๆ ก่อนว่าจะเข้าความผิดในข้อหาใดหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง