ผู้ต้องขังถูกแทงดับ พบเป็นอริกันมาตั้งแต่นอกเรือนจำ

กรมราชทัณฑ์ 11 พ.ย.-ราชทัณฑ์ แจงกรณีผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษมีนบุรี ถูกแทงเสียชีวิต พบเป็นอริกันมาตั้งแต่นอกเรือนจำ พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง

กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษมีนบุรีว่า เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 08.15 น. เกิดเหตุผู้ต้องขังทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน บริเวณใต้โดมร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังแดน 5 และเจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุโดยเร็ว จากนั้นพบผู้ต้องขังรายหนึ่งถูกของมีคมแทงอาการสาหัส จึงได้รีบนำตัวส่งสถานพยาบาลของเรือนจำฯ และได้ประสานรถฉุกเฉิน 1669 เพื่อร่วมช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ผู้ต้องขังเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในการนี้ เรือนจำพิเศษมีนบุรี ได้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ต้องขังที่กระทำความผิดและแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานกองทัณฑวิทยานำชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าจู่โจมตรวจค้นภายในเรือนจำฯ และได้ดำเนินการย้ายผู้ก่อเหตุไปเรือนจำอื่น เพื่อควบคุมและดำเนินการตามชั้นตอนตามมาตรฐานการปฏิบัติงานควบคุมผู้ต้องขังต่อไป (SOPs)


โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ เรือนจำพิเศษมีนบุรีรายงานว่า เกิดจากมีการทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มผู้ต้องขังที่มีมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่อยู่ภายนอกเรือนจำ และเมื่อเข้ามาพบกันในเรือนจำฯ จึงทำให้มีการกระทบกระทั่งกันมาโดยตลอด แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีมาตรการ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างเข้มงวดก็ตาม แต่เรือนจำพิเศษมีนบุรียังมีข้อจำกัดที่สำคัญเช่นเดียวกับเรือนจำทั่วประเทศ ได้แก่ความแออัดของผู้ต้องขังและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ต่อผู้ต้องขังต่ำกว่ามาตรฐานสากล ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์นี้ทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องยกระดับในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น พร้อมทบทวนปรับปรุงระบบต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในส่วนของกลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ ทางเรือนจำฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว 

กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจและพร้อมให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว และขอเน้นย้ำว่าเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง ภายใต้การดูแลของ กรมราชทัณฑ์ ได้ให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยและสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังทุกคนมาโดยตลอด.-119.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้