จับตา คปภ. เคลมค่าสินไหม 15 วัน ประกันโควิด

กทม. 10 ก.ย.-ผู้บริโภคร้องเคลมประกันโควิด-19 ล่าช้า เกิน 15 วันผิดคำสั่ง คปภ. ติดต่อบริษัทไม่ได้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเข้าพบเลขาธิการ คปภ. เร่งบริษัทฯ จ่ายเบี้ยประกันทันที เสนอลงโทษกับทุกบริษัทที่ประวิงเวลา และพิจารณาออกคำสั่งให้รับเอกสารเคลมค่าสินไหมออนไลน์ ลดความล่าช้า ทาง คปภ.ยอมรับหลักการ

ตามที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ประสบปัญหาเรื่องบริษัทประกันจ่ายค่าสินไหมประกันโควิด-19 ล่าช้า เกินกว่า 15 วันหลังจากวันที่ส่งเอกสารให้กับทางบริษัทประกัน และไม่สามารถติดต่อกับบริษัทประกันได้ โดยบริษัทประกันที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา คือ บริษัทสินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ,บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด ,บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด และบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งไม่ปฏิบัติตามกับคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ให้บริษัทดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวกับประกันภัยโควิด-19 ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ยื่นเอกสารหลักฐานครบถ้วนแล้ว ส่วนในกรณีที่ยื่นเอกสารหลักฐานประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนไม่ครบถ้วน คปภ.มีคำสั่งให้แจ้งผู้เอาประกันภัยในวันเดียวกับที่ตรวจพบ บางรายร้องเรียนไปกับทาง คปภ.แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะนี้มีผู้เดือดร้อนในเรื่องดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากบริษัทประกัน ซึ่งถ้า คปภ.ปล่อยให้ขายประกันโอ้อวดได้ ก็ต้องคุมให้จ่ายค่าชดเชยให้ได้ นี่คือหน้าที่ผู้ตั้งกฎ ผิดจากนี้ คือแค่นายหน้าบริษัทประกัน


นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า บริษัทประกันมีพฤติการณ์ที่น่าจะเข้าข่ายการประวิงเวลาในการเคลมค่าสินไหม โดยกำหนดเงื่อนไขให้ส่งเอกสารต้นฉบับที่ต้องลงลายมือชื่อของผู้เอาประกันทางไปรษณีย์ ทำให้ล่าช้า เพิ่มภาระให้ผู้บริโภค และเกิดอุปสรรคต่อการจัดส่งเอกสารถึงบริษัทประกัน ซ้ำเติมความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความยากลำบากในสถานการณ์วิกฤติโรคระบาด อีกทั้ง ผู้บริโภคยังมีปัญหาจากการติดต่อกับบริษัทผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด และไม่มีระบบตอบรับว่าได้รับเอกสารการเคลมประกันหรือไม่ ด้วยปัญหาดังกล่าว ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเรียกร้องให้ คปภ. ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

  1. เร่งรัดให้บริษัทจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้ซื้อประกันทุกรายโดยทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ซื้อประกัน
  2. ขอให้ตรวจสอบและลงโทษบริษัทประกันที่ประวิงเวลาจ่ายค่าสินไหมทุกบริษัท
  3. ขอให้ คปภ.พิจารณาออกคำสั่งให้บริษัทประกันรับเอกสารเคลมค่าสินไหมผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท เช่น อีเมล แชท ไลน์ ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ เช่นเดียวกับตอนที่เสนอขายออนไลน์

เนื่องจากปัจจุบันบริษัทเสนอขายประกันทางออนไลน์ จึงควรจะเคลมประกันออนไลน์ได้ โดยให้ผู้เอาประกันเซ็นชื่อและสแกนเอกสารการยืนยันการติดเชื้อส่งให้บริษัทประกัน ไม่ต้องใช้เอกสารจำพวกสำเนาบัตรประชาชน เพราะใช้ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันตัวตนตั้งแต่ตอนสมัครซื้อประกันแล้ว อีกทั้ง ตอนนี้ผลแล็บต่างๆ ใช้วิธีส่งทางอีเมลล์ แต่หากบริษัทต้องการต้นฉบับ กลายเป็นว่าผู้เอาประกันจะต้องไปเอาต้นฉบับที่โรงพยาบาล ซึ่งสร้างภาระให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ช่องทางออนไลน์มีความรวดเร็วมากกว่าในการดำเนินงาน จึงจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องพนักงานไม่พอ และลดภาระงานให้กับพนักงานได้ โดยรวบรวมข้อมูลนำไปตรวจสอบกับโรงพยาบาลที่ผู้เอาประกันรักษา ซึ่งหากมีผู้ปลอมแปลงเอกสาร ก็มีความผิดที่บริษัทประกันสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้


​ด้านนายชนะพล มหาวงษ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ คปภ. กล่าวว่า ทาง คปภ.ขอรับในหลักการ โดยมีมาตรการที่จะให้บริษัทประกันภัยดำเนินการโดยเร็ว ในเชิงลงโทษบริษัท จะช่วยประชาชนเพื่อบรรเทาปัญหาในเรื่องของการเคลมประกันภัยโควิด-19 ปัญหาที่เกิดขี้นในช่วงนี้ น่าจะเพราะว่าไม่ได้มีระบบรองรับ ทั้งเรื่องของคนและเทคโนโลยี เมื่อมีคนไปเคลมจำนวนมาก ทำให้ล่าช้า ก็ต้องขออภัยที่เกิดความล่าช้าขึ้นบ้าง แต่ขณะนี้คปภ.เองก็พยายามที่จะกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนบางบริษัทที่ติดต่อไม่ได้เมื่อส่งเอกสารไป ทำให้ไม่รู้ว่าเอกสารครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกรมธรรม์จะเริ่มนับ จึงเกิดความล่าช้า ในส่วนนี้ทีมงานของ คปภ. กำลังประสานข้อมูลต่างๆ ให้ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน การรักษาพยาบาล การชดเชยรายได้ แม้กระทั่งการเจอ จ่าย จบ การรับประกันโควิด-19 ล่าสุดมีคำสั่งเร่งให้บริษัทประกันดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แล้วก็ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภารกิจโดยเฉพาะ รับเรื่องร้องเรียนและเป็นสื่อกลางอีกทางหนึ่งที่จะประสานบริษัทประกันภัยเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ​หลังจาก คปภ.รับหลักการแล้ว ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคชวนจับตาดู คปภ. ในการจัดการปัญหาเคลมค่าสินไหมล่าช้าในช่วงเวลา 15 วันต่อจากนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง