อินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย ตกลงกระชับสัมพันธ์ความมั่นคง

จาการ์ตา 9 ก.ย. – อินโดนีเซียกับออสเตรเลียตกลงกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีที่จัดขึ้นในวันนี้ โดยทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับการฝึกทหารร่วมกันในออสเตรเลียและการเข้าร่วมในสถาบันการป้องกันประเทศออสเตรเลีย


นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลีย และนายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย ได้เดินทางเยือนกรุงจาการ์ตา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีออสเตรเลียเดินทางเยือนอินโดนีเซียนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย เผยว่า อินโดนีเซียได้ลงนามในข้อตกลงด้านการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันประเทศ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงข้อตกลงสนับสนุนประเทศในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านนายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย ระบุว่า ทั้งสองประเทศได้หารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ที่รวมถึงความเป็นไปได้ในการฝึกทหารร่วมกันในออสเตรเลียและการเข้าเรียนในสถาบันออสเตรเลียของนักเรียนทหารอินโดนีเซียที่เขาระบุว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งสองคนของอินโดนีเซียยังระบุว่า อินโดนีเซียได้หารือกับออสเตรเลียในประเด็นอื่น ๆ ที่รวมถึงการพัฒนาด้านการเมืองในอัฟกานิสถานและเมียนมา โดยที่ทั้งสองประเทศต่างให้การสนับสนุนภารกิจทางการทูตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

ในขณะเดียวกัน นางเพย์น กล่าวว่า ออสเตรเลียยินดีต้อนรับภูมิภาคที่สนับสนุนการแข่งขันตามกฎเกณฑ์และบรรทัดฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการแข่งขันที่ดีมากกว่าเป็นการแข่งขันที่เสี่ยงต่อความไม่มั่นคงหรือความขัดแย้ง โดยที่ออสเตรเลียและอินโดนีเซียต่างยินดีที่จะร่วมมือกันตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว หลังจากนี้ นางเพย์นและนายดัทตันจะเดินทางเยือนชาติพันธมิตรอีกหลายประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ได้แก่ อินเดีย เกาหลีใต้ และสหรัฐ ทั้งนี้ การเดินทางดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เกิดความวิตกกังวลครั้งใหม่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่จีนประกาศให้มีการแจ้งจากเรือต่างประเทศก่อนเข้าสู่พื้นที่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่จีนอ้างสิทธิว่าเป็นของตนเอง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง