กทม. 5 ก.ย.- โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ สั่งเร่งเยียวยา แก้ไขปัญหา-บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนเต็มที่ แจงประกันสังคมโอนแล้วกว่า 4.2 หมื่นล้าน ขณะที่ยอดใช้จ่ายมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐพุ่งกว่า 7 หมื่นล้าน เตรียมปลดล็อกใช้คนละครึ่งเฟส3-ยิ่งใช้ยิ่งได้ ผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ ต.ค.นี้
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ใน 29 จังหวัดล็อกดาวน์นั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้โอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนและนายจ้าง ม. 33 ไปแล้ว 3,459,626 ราย เป็นเงิน 13,357.52 ล้านบาท ในส่วนของผู้ประกันตน ม. 39 ยอดการโอนอยู่ที่ 1,351,873 ราย เป็นเงิน 6,759.37 ล้านบาท ส่วนผู้ประกันตน ม.40 โอนพร้อมกัน 29 จังหวัด ทำการโอนไปแล้ว 4,496,381 ราย เป็นเงิน 22,481.91 ล้านบาท รวมยอดของประกันสังคมที่ทำการโอนไปแล้วทั้งหมด อยู่ที่ 42,598.79 ล้านบาท ทั้งนี้ อาจมีการโอนบางรายการไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลผิดพลาด ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
นายธนกร กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษนั้น ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 38.62 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 72,491.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 23.96 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 63,206.4 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 32,123.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 31,082.6 ล้านบาท 2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 71,692 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,781 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 46.2 ล้านบาท 3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.52 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 6,991.5 ล้านบาท และ 4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.07 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 466.7 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวอีกว่า หลังจากผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดกิจการร้านอาหาร รวมถึงร้านค้าต่างๆ ตามเงื่อนไข COVID-Free Setting ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นที่จะออกมาใช้จ่ายมากขึ้นภายใต้การป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล Universal Prevention อย่างระมัดระวังสูงสุด ยอดใช้จ่ายตามมาตรการของรัฐคาดว่าน่าจะยิ่งสูงขึ้นอีกในช่วงเดือนหน้า เนื่องจากการเชื่อมต่อระบบ Platform Delivery การส่งสินค้า อาหาร และบริการต่าง ๆ เข้ากับระบบโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 และโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ซึ่งจะเร่งให้เริ่มใช้ได้ในเดือนตุลาคมนั้น จะเป็นช่วงเดียวกับการเติมเงินคนละครึ่งรอบที่ 2 อีก 1,500 บาท เข้าแอปฯ เป๋าตัง เบื้องต้นมีผู้ประกอบการ Delivery ที่คาดว่าจะเข้าร่วมโครงการฯ เช่น ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า โรบินฮู้ด แกร็บฟู้ด และช้อปปี้ฟู้ด เป็นต้น ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน .-สำนักข่าวไทย