มท.1 เน้นย้ำบูรณาการทุกส่วนงาน แก้ความเดือดร้อนประชาชน

กทม. 7 มี.ค.- รมว.มหาดไทย มอบนโยบาย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ 25 จังหวัดภาคกลาง อุทัยธานี และนครสวรรค์ เน้นย้ำ บูรณาการทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย พร้อมติดตามการพัฒนาอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

วันนี้ (7 มี.ค. 65) เวลา 09:00 น. ที่โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดและมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับพื้นที่ ภาคกลาง โดยมี คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 25 จังหวัดภาคกลาง อุทัยธานี และจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และนายอำเภอ ร่วมรับฟัง และถ่ายทอดสดการประชุมผ่านระบบ DOPA Channel ไปยังทุกจังหวัด/อำเภอทั่วประเทศ โดยมี ปลัดอำเภอ พัฒนาการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมรับฟัง


พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน เพราะประเทศของเรายังมีคนที่อ่อนด้อยในสังคม ที่เราอาจเรียกว่ากลุ่มอ่อนด้อย กลุ่มเปราะบาง เป็นต้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงแค่มิติด้านเศรษฐกิจ แต่หมายความรวมถึงความเดือดร้อนด้านต่าง ๆ ที่ประชาชนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีเจตนาเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นที่มาของการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) มีเป้าหมายสำคัญ คือ “การแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือน” หรือ “การตัดเสื้อให้พอดีตัว” โดยกลไกการดำเนินงานตั้งแต่ระดับนโยบายถึงระดับปฏิบัติในพื้นที่ ได้แก่ ระดับจังหวัด ผ่านศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด (ศจพ.จ.) ระดับอำเภอ ผ่านศูนย์อำนวยการปฏิบัติการฯ อำเภอ (ศจพ.อ.) และระดับปฏิบัติการ ผ่านทีมปฏิบัติการฯ ในระดับพื้นที่ (ทีมตำบล) โดยมี “ทีมพี่เลี้ยง” เข้าไปรับทราบปัญหา หาทางแก้ไข จัดทำแผนร่วมกับทุกครัวเรือนยากจนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน และสนับสนุนให้ครัวเรือนมีการวางแผน/แก้ปัญหาตรงตามสภาพปัญหาที่กำลังเผชิญ เมื่อทราบปัญหาครบแล้ว จะรายงาน ศจพ.อำเภอ เพื่อบูรณาการความช่วยเหลือ โดยหน้าที่ในการแก้ปัญหาเป็นของทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่และงบประมาณของหน่วยงาน ให้เสร็จสิ้นในระดับอำเภอ ตามแนวทางการแก้ไขปัญหารวม 5 ด้าน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “5 เมนูแก้จน” ได้แก่ 1) สุขภาพ 2) ความเป็นอยู่ 3) การศึกษา 4) ด้านรายได้ และ 5) การเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยหากเป็นปัญหานอกเหนือจากแนวทางดังกล่าว ให้ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่

“กระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อนกระบวนการ ศจพ. โดย “ทุกกระทรวง/ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง” คือผู้เดินหน้าแก้ไขปัญหาแบบพุ่งเป้าตามอำนาจหน้าที่และงบประมาณของหน่วยงานร่วมกับภาคประชาชนและทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อให้ปัญหาความเดือดร้อนของครัวเรือนเป้าหมายได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุดและเป็นการแก้ไขด้วยเป้าเดียวกัน ทั้งนี้ “ความสำเร็จหรือล้มเหลวทั้งหมดอยู่ที่กลไกในพื้นที่ทั้งหมด” โดยเฉพาะแม่ทัพของพื้นที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทีมปฏิบัติการตำบล และ “ทีมพี่เลี้ยง” ต้องวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางการแก้ไข ตามหลัก 4 ท คือ ทัศนคติ ทักษะ ทรัพยากร และทางออก ด้วยการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของครัวเรือนยากจนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในลักษณะ Intensive care โดยที่ครัวเรือนต้องมีส่วนร่วมและไม่เป็นการบังคับให้ทำ ซึ่งพัฒนากรต้องสร้างความเข้าใจให้ทีมพี่เลี้ยงไปสำรวจให้รู้ปัญหา รู้แนวทางการทำงาน และวิเคราะห์ปัญหาออกมา พร้อมทั้งติดตาม ตรวจสอบ ดูแลอย่างใกล้ชิด และบันทึกในระบบ Logbook ทุกครั้งที่ได้ให้ความช่วยเหลือ โดยนายอำเภอเป็นขุนศึกสำคัญที่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหา ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 65 และหากปัญหาที่พบนอกเหนือจากเมนู ให้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หากไม่สามารถแก้ไขในระดับอำเภอได้ให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บูรณาการหาช่องทางแก้ปัญหาให้ได้ และหากเป็นสภาพปัญหาที่ต้องแก้ไขในระดับนโยบายให้รายงานกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการต่อไป นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญในการสร้างการรับรู้กับประชาชน ด้วยช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้ง Online Onsite Onground ให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย หลาย ๆ ช่อง หลาย ๆ เวลา ทำซ้ำ ๆ ทำบ่อย ๆ เพื่อปลายทาง คือ “พี่น้องประชาชนมีความสุข” พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ


สุดท้าย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้เน้นย้ำนโยบายการขับเคลื่อนการทำงานในระดับพื้นที่ ได้แก่ 1) บูรณาการทุกภาคส่วนรณรงค์ลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม สร้างจิตสำนึกด้วยความเพียรพยายาม “ทำให้คนขับรถมีวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนน” คือ ทำตามกฎหมาย มีความระแวดระวัง มีความเอื้ออาทรในการใช้รถใช้ถนน เมื่อถึงทางคับขัน/ทางข้าม ต้องชะลอรถ “เมื่อมีคนทำท่าจะข้ามถนน ต้องหยุดรถทันที” โดยกำหนดให้วันที่ 21 ของทุกเดือนมีการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ 2) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ลด Demand Side ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และ Supply Side ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นจริงจัง 3) บริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 โดยรณรงค์ประชาชนปฏิบัติตาม DMHTT อย่างต่อเนื่อง และสำหรับสถานที่ต่าง ๆ ให้ใช้มาตรการ COVID Free Setting ตามลักษณะสถานที่ พร้อมบริหารจัดการเตียงโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยโซนสีเหลือง-แดง และศูนย์พักคอย (CI) การดูแลตนเองที่บ้าน (HI) สำหรับผู้ติดเชื้อโซนซีเขียว ให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม 4) การจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณเสาไฟฟ้าในเบื้องต้น โดยเริ่มจากบริเวณจุดที่มีสภาพปัญหามากที่สุดตามลำดับ และในระยะยาว กสทช. จะเป็นผู้ดำเนินการ 5) บริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (GG Framework) ในทุกระดับ ทุกกลไกในพื้นที่

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ที่ “คนมหาดไทย” ซึ่งมีจิตวิญญาณในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อยากบำบัดทุกข์ บำรุงสุขพี่น้องประชาชน ดังนโยบาย “จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ทั้งคนที่ทุกข์ยาก เดือดร้อน ยากไร้ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งต้องมีทัศนคติ (Attitude) ต่อการทำหน้าที่ มีความรู้ (Knowledge) ความสามารถ (Ability) เมื่อ Knowledge x Ability x Attitude = Success (ความสำเร็จ) ดังนั้นผู้ว่าฯ นายอำเภอ ต้องเป็นผู้นำ ปลุกเร้าจิตใจทีมจังหวัด อำเภอ ตำบล และทีมพี่เลี้ยง ให้มีจิตใจที่อยากช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนในสังคม พร้อมทำความเข้าใจให้ตรงกันว่าคำว่า “ยากจน” คือ “ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เขาประสบอยู่ในทุก ๆ เรื่อง และเขาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง” เช่น ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย ลูกหลานติดยาเสพติด เป็นหนี้นอกระบบ โดย “นายอำเภอ” ต้องเข้าใจงานและไปสร้างทีม ทำให้ทีมเข้าใจตรงกัน และกำหนดให้การแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระสำคัญของจังหวัด อำเภอ บูรณาการกลไก/เครือข่ายในพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา ด้วยแนวทาง 2 มิติ คือ “มิติยาฝรั่ง” (ทำให้อยู่รอด) ไม่เดือดร้อน ทำให้มีบ้าน ได้เรียนหนังสือ มีปัญหาขอรับความช่วยเหลือได้ทันที โดยส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้น ๆ และ “มิติยาไทย” (ทำให้ยั่งยืน) ด้วยการส่งเสริมทักษะ วิธีการ แนวทางในการแก้ปัญหา ตามแนวทาง “ผู้นำต้องทำก่อน” เพื่อให้ประชาชนเรียนรู้วิธีการพัฒนาตนเอง อาทิ การรณรงค์สวมใส่ผ้าไทย เพื่อช่างทอผ้ามีรายได้จุนเจือครอบครัว เลี้ยงดูลูกหลาน การปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นทางอาหาร เพื่อเป็นแหล่งอาหารประทังชีวิต เป็นแหล่งยาสมุนไพรรักษาโรค มีกิน มีใช้ ด้วยการพึ่งพาตนเอง เป็นครูจิตอาสา และครูพาทำ ให้ผู้ยากไร้ คนด้อยโอกาสทางสังคมที่อยู่ในพื้นที่ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง รู้จักเก็บหอมรอมริบ เพื่อสามารถตั้งตัวได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเนื่องในวาระมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา ต้องทำให้พี่น้องคนไทยมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง แข็งแรง ถูกสุขลักษณะ ถวายเป็นพระราชกุศล ให้แล้วเสร็จภายใน 12 ส.ค. 65

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ยังได้กล่าวอีกว่า ภาคีเครือข่ายที่สำคัญตามระเบียบ มท. ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ได้กำหนดให้อปท. ทั้ง 7,849 แห่ง จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดยจัดทำป้ายที่ชัดเจน บริเวณริมรั้วที่ทำการ พร้อมหมายเลขติดต่อ รวมทั้งให้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” อย่างน้อยอำเภอละ 1 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวก รวบรวมปัญหาความต้องการของประชาชน และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา โดยบูรณาการทรัพยากร เช่น เงินทุนหมุนเวียนตามโครงการเศรษฐกิจชุมชนขององค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลตำบล มาแก้ปัญหา และผู้ว่าฯ ต้องรายงานผลการขับเคลื่อนให้กระทรวงต้นสังกัดของส่วนราชการนั้น ๆ พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรค มายังกระทรวงมหาดไทยทุกเดือน เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป


“ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ต้องลงพื้นที่ไปให้กำลังใจ ไปพบปะ ไปดูการทำงานของทีมพี่เลี้ยงในพื้นที่ด้วย เพื่อให้เกิดการนิเทศ ติดตาม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้งานเกิดความสำเร็จมากยิ่งขึ้น อันจะบังเกิดผลดีกับพี่น้องประชาชน เมื่อทุกคนร่วมมือร่วมใจทำ พี่น้องคนไทยจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้น มีความทุกข์น้อยลง นอกจากนี้ ต้องใช้กลไกประชาสัมพันธ์จังหวัดในพื้นที่ ทำให้สังคมได้ทราบว่า พวกเรากำลังสำรวจสภาพปัญหาและค้นหาประชาชนผู้เดือดร้อนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดการรับรู้เข้าใจ และเกิดการมีส่วนร่วมจากพี่น้องประชาชนได้ช่วยกันแจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 รวมถึงผ่านช่องทาง onsite โดยทีมผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อปท. ดังนั้น สิ่งสำคัญจึงต้องทำให้ผู้ปฏิบัติได้เข้าใจ เพื่อรับเรื่องราว และจำแนกปัญหา ส่งต่อให้ ศจพ.อำเภอ/จังหวัด ไปตรวจสอบ ช่วยเหลือ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาความยากจนในทุกพื้นที่ให้แล้วเสร็จตามกำหนดอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก.​เผยไทยเตรียมประท้วง หากกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 18 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ยัน​ไทยไม่เพิกเฉย​ เตรียมประท้วง หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 2542 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ เผย​ผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ ส่งชุดประสานงานไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 7 คน ดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ โดยพลเรือตรีสุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณี พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด​ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จังหวัดอุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้ดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ เป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 […]

นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธมคึกคัก

สุรินทร์ 18 ก.ค. – นักท่องเที่ยวสองประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ รวมทั้งให้กำลังใจทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก ขณะที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีหญิงกัมพูชาด่าทหารไทย ด้านนายอำเภอพนมดงรัก ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัย ยันพยายามจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเข้ามามอบสิ่งของบำรุงขวัญทหารแนวหน้า และเข้าไปเที่ยวชมภายในตัวปราสาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวฝ่ายกัมพูชามีกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน คนหน้าเดิม เข้ามาเป็นประจำ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย คล้ายๆ กับการจัดตั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยล้วนเข้ามาด้วยความสมัครใจ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นโรดม แพน โมนิก้า หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าและไล่ทหารไทย จะกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับสถานการณ์แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีร่วมกันจากเหตุดังกล่าวว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากพันตำรวจเอก นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก ว่ามีคนแจ้งความดำเนินคดีนโรดม แพน โมนิก้า แล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมเดินหน้าสะสางคดี เพื่อเป็นการยืนยันเขตอธิปไตยไทยด้วย การเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นของ อ.พนมดงรัก พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายสินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เสื้อยืดสกรีน ภาพทหารพร้อมข้อความ […]

“แพทองธาร” เยี่ยมทหารบาดเจ็บ ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ

อุบลราชธานี 18 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยรับมอบหมายจาก ครม. ให้เป็นตัวแทนร่วมคณะ “รมช.กลาโหม” เยี่ยมให้กำลังใจ 3 ทหารพราน ในเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดช่องบก ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ ยัน “รัฐบาล – กองทัพ” รับผิดชอบดูแลกำลังพล ประชาชน พร้อมรักษาอธิปไตยไทย นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วย พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยนางสาวแพทองธาร ได้สอบถามอาการพลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 พร้อมบอกว่า รัฐบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ พร้อมให้กำลังแม่ของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวตกใจ เพราะทหารคนดังกล่าวเพิ่งไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้น นางสาวแพทองธาร และ พลเอกณัฐพล ได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารอีก 2 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมรับฟังอาการ ว่า […]

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]