เจนีวา 5 ส.ค. – องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มสามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เนื่องจากเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงในการฉีดวัคซีนของประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน
ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เขาเข้าใจความวิตกกังวลของรัฐบาลทั่วโลกในการป้องกันประชาชนจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่อาจยอมรับได้ว่ามีหลายประเทศที่ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นส่วนใหญ่จากปริมาณวัคซีนที่มีทั้งหมดทั่วโลกอยู่แล้ว และยังจะใช้วัคซีนมากขึ้นกว่าเดิมอีก ดร. ทีโดรส ระบุด้วยว่า มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่ส่งไปให้ประเทศที่มีรายได้สูง ให้เน้นส่งไปยังประเทศที่มีรายได้ต่ำโดยด่วน นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังเผยว่า ประเทศที่มีรายได้สูงได้ฉีดวัคซีนราว 50 โดสต่อประชาชน 100 คนในเดือนพฤษภาคมและเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังจากนั้น ในขณะที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำฉีดวัคซีนได้เพียง 1.5 โดสต่อประชาชน 100 คน เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน
ในขณะเดียวกัน นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ ระบุเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ข้อเรียกร้องของ ดร. ทีโดรสที่ต้องการให้ประเทศที่มีรายได้สูง เช่น สหรัฐ หยุดฉีดวัคซีนเข็มสามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันจนกว่าประเทศที่มีรายได้ต่ำจะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้นั้นเป็นแนวคิดที่ผิด เนื่องจากสหรัฐสามารถฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ชาวอเมริกัน หากได้รับการอนุมัติ และบริจาควัคซีนส่วนเกินให้แก่ประเทศอื่น ๆ ไปพร้อมกันได้.-สำนักข่าวไทย