“อัจฉริยะ” แจ้งความเอาผิด “อภิวัฒน์” ฐานแจ้งความเท็จ

กทม. 27 ก.ค. – ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แจ้งความเอาผิด “อภิวัฒน์ ขันทอง” ฐานแจ้งความเท็จ หลังเข้าแจ้งความตนเองหมิ่นประมาทรัฐบาล โดยไม่มีอำนาจ


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเข้าแจ้งความดำเนินคดี นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา ในกรณีที่นายอภิวัฒน์ขันทองแจ้งความดำเนินคดีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เนื่องจากนายอภิวัฒน์อ้างว่าได้รับหนังสือมอบอำนาจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีอำนาจในการตรวจสอบและดำเนินคดีกับบุคคลทั่วไปที่มีการพาดพิงรัฐบาล หรือมีการกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีในทางเสื่อมเสีย

สืบเนื่องจากวันที่ 29 กรกฎาคม นายอภิวัฒน์ได้แจ้งข้อกล่าวหาตนเองในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากตนเองได้ทำการไลฟ์และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล นอกจากนี้ยังพูดถึงเรื่องขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่กระทบต่อภาพรวมของประเทศ


หลังจากได้ดูหนังสือคำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก็พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มอบอำนาจให้นายอภิวัฒน์ มาร้องทุกข์หรือดำเนินการแจ้งความแทนตนเองแต่อย่างใด

ในส่วนของข้อหาแรกที่มีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ หากมองในข้อเท็จจริงข้อหานี้สามารถแจ้งความได้เนื่องจากเป็นคดีอาญาต่อแผ่นดินแต่ เนื่องจากว่าขณะที่ตนเองไลฟ์นั้น นายกรัฐมนตรีไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นพนักงานอัยการ ศาลแขวงดุสิตจึงคืนสำนวนมาให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง และเปลี่ยนข้อหาเป็นความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแทน

อย่างไรก็ตาม หากจะแจ้งความฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาซึ่งเป็นความผิดส่วนตัว นายกรัฐมนตรีจะต้องมอบอำนาจให้นายอภิวัฒน์ เป็นผู้ดำเนินคดีแทนก่อน แต่ในกรณีนี้ตรวจสอบแล้วก็พบว่านายอภิวัฒน์ไม่มีอำนาจในการแจ้งความดำเนินคดีแทนนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการกระทำของนายอภิวัฒน์จึงเป็นการแจ้งความเท็จ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง