วอชิงตัน 23 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า มีแนวโน้มว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศไว้ว่า จะฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างน้อย 1 โดสให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ให้ได้ร้อยละ 70 ภายในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ พร้อมกับเตือนวา เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่เรียกว่า เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย จะเป็นปัญหาใหญ่ในความพยายามกำจัดโควิด-19 ในสหรัฐ
เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลจะสามารถบรรลุเป้าหมายร้อยละ 70 สำหรับประชากรวัยผู้ใหญ่ที่อายุ 27 ปีขึ้นไปในวันที่ 4 กรกฏาคม แต่จะไปไม่ถึงเป้าหมายของนายไบเดนในการฉีดวัคซีนให้ประชากรวัยผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป เจฟฟรีย์ ซีเอนท์ส ที่ปรึกษาอาวุโสด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาวกล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์หลังจากวันที่ 4 กรกฎาคมที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่นายไบเดนตั้งเอาไว้ เขากล่าวว่า ยังต้องดำเนินการอีกหลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งการระดมฉีดวัคซีนให่ผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-26 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวอเมริกันที่อายุน้อยมีความรู้สึกว่า โควิด-19 ไม่มีผลกระทบใด ๆ กับพวกเขา และไม่กระตือรือร้นที่จะเข้ามาฉีดวัคซีน ทางด้าน นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐ กล่าวว่า โควิด-19 สายพันธุ์เดตา เป็นอุปสรรคสำคัญของการกำจัดโควิด-19 ให้หมดไปจากสหรัฐ เขากล่าวว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการรับมือกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายกว่าเดิม เขาระบุว่า ขณะนี้มีเครื่องมืออยู่แล้ว และขอให้ประชาชนร่วมมือกันใช้เครื่องมือเพื่อเอาชนะการระบาดให้ได้.-สำนักข่าวไทย