fbpx

ผู้นำเมียนมาเผยเลือกตั้งครั้งหน้าอาจไม่ทั่วประเทศ

เนปิดอว์ 25 มี.ค.- พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า มีแผนจะจัดการเลือกตั้งเมื่อประเทศมีสันติภาพและเสถียรภาพ แต่อาจไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทั่วประเทศ สื่อทางการเมียนมาเผยแพร่เนื้อหาบางส่วนที่ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียว่า กองทัพเมียนมาที่รัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ยังคงมีแผนการจะนำประเทศกลับไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยกล่าวว่า หากประเทศมีสันติภาพและเสถียรภาพ กองทัพก็มีแผนจะจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด แม้ว่าอาจจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทั่วประเทศตามกฎหมาย รัฐบาลทหารเมียนมาได้ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุก 6 เดือนนับตั้งแต่รัฐประหาร โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำให้ประเทศมีเสถียรภาพและกวาดล้างฝ่ายต่อต้านที่รัฐบาลระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ขณะที่สหประชาชาติเผยว่า เมียนมาได้ยิงปืนใหญ่และส่งเครื่องบินขับไล่ไปโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลเงาและกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้ประชาชนมากกว่า 2 ล้าน 3 แสนคนต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น ด้านชาติตะวันตกชี้ว่า การเลือกตั้งของเมียนมาจะเป็นเพียงการแสดงตบตา เพราะมีพรรคการเมืองถูกยุบไปแล้วมากกว่า 40 พรรคนับตั้งแต่รัฐประหาร และมีระเบียบข้อห้ามมากมายที่ทำให้ยากจะมีพรรคการเมืองขึ้นมาท้าทายพรรคตัวแทนของกองทัพได้.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการหากจำเป็นหลังจีนเผชิญวิกฤตอสังหาฯ

โซล 20 ส.ค.- กระทรวงคลังเกาหลีใต้แจ้งว่า จะดำเนินมาตรการสร้างเสถียรภาพให้ตลาดหากจำเป็น หลังจากมีกระแสวิตกเพิ่มขึ้นเรื่องผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนายชู กยอง-โฮ รัฐมนตรีคลังได้หารือกับผู้ว่าการธนาคารกลางและเจ้าหน้าที่การคลังระดับสูง เรื่องสถานการณ์ความไม่แน่นอนในระดับโลก รวมถึงตลาดพันธบัตรสหรัฐที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้น ผู้กำหนดนโยบายประกาศจะดำเนินมาตรการสร้างเสถียรภาพให้ตลาดหากจำเป็น ควบคู่ไปกับการสังเกตการณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง กระทรวงกล่าวถึงวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นในจีนว่า ธนาคารของเกาหลีใต้มีความเสี่ยงต่อวิกฤตนี้ประมาณ 400,000 ล้านวอน (ราว 10,616 ล้านบาท) ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า กลุ่มเอเวอร์แกรนด์กรุ๊ป (Evergrande Group) ที่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้ยื่นขอความคุ้มครองในฐานะล้มละลายต่อศาลสหรัฐเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เพื่อหาทางปรับโครงสร้างและบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ กลุ่มนี้เคยผิดนัดชำระหนี้มากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 10.67 ล้านล้านบาท) ในปี 2564.-สำนักข่าวไทย

กฟผ. มั่นใจไร้ปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ ตอกย้ำระบบไฟฟ้าไทยมั่นคง

กฟผ.เผยไทยไร้ปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ แม้ร้อนนี้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าพีคทะลุพีค เพราะมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดูแลระบบผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้มั่นคง มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและโอกาสทางการแข่งขันของไทย

เอกชนมอง 23 ข้อและปฏิบัติ 5 ข้อรัฐบาลใหม่เป็นสัญญานที่ดี

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยระบุมอง ข้อและปฏิบัติ 5 ข้อรัฐบาลใหม่ถือเป็นสัญญานที่ดี และขอให้รัฐบาลใหม่สามารถจัดตั้งเดินหน้าเร่งแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาดีขึ้น

รมว.คลังจี 7 ประกาศรักษาเสถียรภาพการเงินโลก

นีงาตะ 13 พ.ค.- รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ประกาศวันนี้ว่า จะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับประกันเสถียรภาพการเงินโลก หลังจากเกิดกระแสวิตกเรื่องผลกระทบที่จะติดตามมาจากการที่ธนาคารในสหรัฐปิดกิจการหลายแห่ง รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจี 7 ออกแถลงการณ์ร่วมหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลา 3 วันที่เมืองนีงาตะของญี่ปุ่น ย้ำถึงความจำเป็นของการแก้ไขช่องว่างเรื่องข้อมูล การกำกับดูแล และระเบียบในระบบการธนาคาร หลังจากที่ได้พิจารณาความเสี่ยงของแอปพลิเคชันสนทนาและธุรกรรมออนไลน์ที่มีคนใช้งานอย่างกว้างขวางและถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการแห่ถอนเงิน จี 7 จะประสานงานกับหน่วยงานด้านการกำกับดูแลและออกกฎระเบียบอย่างใกล้ชิดในการติดตามสถานการณ์ภาคการเงิน และพร้อมดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาเสถียรภาพและความยืดหยุ่นของระบบการเงินโลก แถลงการณ์ร่วมระบุว่า จี 7 จะริเริ่มความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาภายในสิ้นปีนี้เรื่องทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความแข็งแกร่ง ซึ่งหมายถึงประเทศนอกกลุ่มอย่างจีน ความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวมีชื่อว่า ไรส์ (RISE) ย่อมาจากคำว่า การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบยืดหยุ่นและครอบคลุม (resilient and inclusive supply-chain enhancement) มีเป้าหมายให้ประเทศรายได้น้อยและปานกลางมีบทบาทมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการลดการปล่อยคาร์บอน และส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศไปในเวลาเดียวกัน แถลงการณ์ร่วมยังเรียกร้องให้รัสเซียยุติการทำสงครามผิดกฎหมายต่อยูเครนโดยทันที เพื่อขจัดความไม่แน่นอนใหญ่ที่สุดประการหนึ่งที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี จี 7 เห็นว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีความยืดหยุ่นแม้เผชิญกับเรื่องไม่คาดคิดหลายเหตุการณ์ ทั้งโควิด-19 ระบาด สงครามในยูเครน เงินเฟ้อสูง และพร้อมจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่คล่องตัวและยืดหยุ่นหากมีความจำเป็น.-สำนักข่าวไทย

จีนส่งเรือรบ 8 ลำ เครื่องบินรบ 42 ลำไปรอบไต้หวันวันนี้

ไทเป 8 เม.ย. – กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ตรวจพบเรือรบของจีน 8 ลำ เครื่องบินขับไล่ของจีน 42 ลำ อยู่รอบไต้หวัน ในช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ หลังจากจีนประกาศฝึกซ้อมทางทหารรอบไต้หวันเป็นเวลา 3 วัน กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า ตรวจพบเรือรบและเครื่องบินรบของจีนระหว่างเวลา 06.00-11.00 น. วันนี้ตามเวลาไต้หวัน ตรงกับเวลา 05.00-10.00 น. วันนี้ตามเวลาไทย นอกจากนี้เครื่องบินขับไล่ของจีน 29 ลำ ยังได้ข้ามเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ หรือเอดีไอซี (ADIZ) ของไต้หวันด้วย ถือเป็นจำนวนมากที่สุดภายใน 1 วัน นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ที่เพิ่งกลับถึงกรุงไทเปเมื่อวันศุกร์ หลังจากแวะพบกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่นครลอสแอนเจลิส ระหว่างเดินทางกลับจากการเยือนกัวเตมาลาและเบลิซ กล่าวในวันนี้ว่า ไต้หวันเผชิญกับลัทธิแผ่ขยายอำนาจนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ ทำให้ความร่วมมือกับประเทศประชาธิปไตยยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก ไต้หวันจะร่วมกับสหรัฐและประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันปกป้องค่านิยมเรื่องเสรีภาพและประชาธิปไตยต่อไป ด้านสภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันเรียกร้องให้จีนควบคุมพฤติกรรมของตนเอง และว่าพรรคคอมมิวนิสต์ยังคงใช้การคุกคามทางทหารต่อไต้หวัน เพื่อบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาค แต่ไต้หวันจะไม่ยอมหรือยอมจำนน และจะไม่ยั่วยุหรือดำเนินการอย่างบุ่มบ่าม.-สำนักข่าวไทย

‘ริชี ซูนัค’ แถลงครั้งแรกหลังคว้าตำแหน่งนายกฯ อังกฤษ

ริชี ซูนัค แถลงครั้งแรกหลังคว้าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ แบบไร้คู่แข่ง เตือนประเทศจะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เกิดเสถียรภาพและเอกภาพในประเทศ

ไต้หวันยืนยันเหตุเงินทุนไหลออกเป็นเรื่องชั่วคราว

มะนิลา 28 ก.ย.- นายซู เจี้ยนหรง รัฐมนตรีคลังของไต้หวันยืนยันว่า เหตุเงินทุนไหลออกในขณะนี้เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว และไต้หวันมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเพียงพอที่จะรักษาเสถียรภาพของตลาดเงินไว้ได้ นายซูเผยกับสื่อนอกรอบการประชุมประจำปีของธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี (ADB) ที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ในวันนี้ยอมรับว่า กังวลเรื่องเงินทุนไหลออก แต่ธนาคารกลางไต้หวันได้ประกาศต่อสาธารณะแล้วว่า มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศปริมาณสูงที่ 545,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20.9 ล้านล้านบาท) นับจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม สามารถสนับสนุนเศรษฐกิจและค่าเงินได้หากจำเป็น ดังนั้นเงินทุนไหลออกในขณะนี้จึงเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวเท่านั้น และไต้หวันมีศักยภาพมากเพียงพอที่จะรักษาเสถียรภาพของตลาดเงิน ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันและค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันร่วงลงในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ ตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงแล้วร้อยละ 26 ส่วนค่าเงินอ่อนค่าลงแล้วร้อยละ 13 ในปีนี้ เนื่องจากสหรัฐเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรง ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ประกอบกับมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอการขยายตัว.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ปลื้มฟิทช์คงความน่าเชื่อถือไทย  

นายกฯ ปลื้ม Fitch Ratings ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับมีเสถียรภาพ คาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัว 4.5%

อาเซียน-อินเดียหาทางกระชับสัมพันธ์

นิวเดลี 16 มิ.ย.- สิงคโปร์และอินเดียเรียกร้องให้อาเซียนและอินเดียกระชับความสัมพันธ์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียรุกรานยูเครน และสหรัฐกับจีนแข่งขันกันมากขึ้นจนเป็นภัยต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค นายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวในการประชุมวาระพิเศษครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนและอินเดียในวันนี้ว่า อาเซียนและอินเดียกำลังเผชิญผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามยูเครน และผลกระทบทางอ้อมเรื่องความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน อินเดียสนับสนุนอาเซียนที่มีความแข็งแกร่ง เป็นหนึ่งเดียว และรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ เพราะอาเซียนได้รับการยอมรับอย่างเต็มเปี่ยมเรื่องความเป็นกลางในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก พร้อมกับใช้โอกาสนี้ย้ำเรื่องอาเซียนและอินเดียจำเป็นต้องเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลระหว่างกัน ด้านนายวิเวียน บาลากฤษนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ในฐานะประธานการประชุมร่วมกับอินเดียกล่าวว่า การกระทำของรัสเซียได้ทำให้ระบบสากลเรื่องระเบียบและบรรทัดฐานถูกทำลาย ขณะที่การเป็นคู่แข่งกันของสหรัฐและจีนก็ส่งผลโดยตรงต่อเอเชียทั้งหมด สิ่งเหล่านี้เป็นภัยต่อสันติภาพและเสถียรภาพที่เป็นพื้นฐานของการเติบโต การพัฒนา และความรุ่งเรืองมาตลอดหลายทศวรรษ อาเซียนและอินเดียจึงต้องกระชับความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ยูเออีจะทำงานกับโอเปกพลัสให้ตลาดน้ำมันมีเสถียรภาพ

ดูไบ 28 มี.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ระบุว่า ยูเออีจะทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพื่อทำให้ตลาดน้ำมันมีเสถียรภาพ นายซูฮาอิล อัล-มาซโรอี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของยูเออี เผยวันนี้ว่า ยูเออีกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันให้ได้วันละ 5 ล้านบาร์เรล แต่ไม่ได้หมายความว่ายูเออีต้องการผลิตน้ำมันตามอำเภอใจหรือออกจากกลุ่มโอเปกพลัสที่มีรัสเซียเป็นสมาชิกอยู่ เนื่องจากยูเออีจะยังคงทำงานร่วมกับกลุ่มโอเปกพลัสต่อไปเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) ระบุว่า ในระยะสั้น ตลาดน้ำมันอาจเผชิญกับภาวะตึงตัวที่ทำให้มีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นเกือบวันละ 3 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับปีก่อน ความผันผวนของราคาน้ำมันเป็นผลมาจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และคาดว่าความต้องการน้ำมันจะกลับไปอยู่ในระดับก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ภายในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ตลาดน้ำมันทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะผันผวนอย่างหนัก เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนและการขยายมาตรการล็อกดาวน์ของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ปรับขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียที่อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและการส่งออกน้ำมัน ส่วนในวันนี้ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ได้ปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 3 แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ชาวอเมริกัน 58% เชื่อประชาธิปไตยสหรัฐเสี่ยงพัง

วอชิงตัน 13 ม.ค.- ผลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันพบว่า ร้อยละ 58 หรือ 6 ใน 10 คนเชื่อว่าประชาธิปไตยของสหรัฐเสี่ยงพังทลาย และร้อยละ 76 หรือ 7 ใน 10 คน คิดว่าภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศอันตรายยิ่งกว่าภัยคุกคามจากต่างชาติ มหาวิทยาลัยควินนิเพียกในสหรัฐสอบถามความเห็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,313 คนทั่วประเทศระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม หนึ่งปีหลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันในขณะนั้นบุกอาคารรัฐสภาคัดค้านการประกาศให้นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 58 เชื่อว่าประชาธิปไตยของประเทศเสี่ยงพังทลาย แต่ร้อยละ 37 ไม่เห็นด้วย ผู้ตอบร้อยละ 53 คาดว่า ในช่วงชีวิตนี้จะได้เห็นความแตกแยกทางการเมืองในประเทศเลวร้ายลงอีก และร้อยละ 53 มองว่า มีความเป็นไปได้ถึงเป็นไปได้มากที่จะเกิดเหตุการณ์บุกรัฐสภาขึ้นอีก ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 61 สนับสนุนการที่คณะกรรมการพิเศษในสภาผู้แทนราษฎรกำลังสอบสวนเหตุการณ์บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ผู้ตอบที่สังกัดพรรคเดโมแครตสนับสนุนเรื่องนี้มากถึงร้อยละ 83 ขณะที่ผู้ตอบที่สังกัดพรรครีพับลิกันคัดค้านเรื่องนี้มากถึงร้อยละ 60 ผลสำรวจพบด้วยว่า ผู้ตอบที่พึงพอใจในผลงานของประธานาธิบดีไบเดนเหลือเพียงร้อยละ […]

1 2
...