กาญจนบุรี 18 มิ.ย. กรมอุทยานฯ ไม่ถอย ติดป้ายคำสั่งรื้อถอนและขับไล่นายทุนบุกรุกป่า 592 ไร่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ. กาญจนบุรี โดยให้ออกภายใน 30 วัน แม้อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปติดป้าย ประกาศคำสั่งอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 35 (1) (2) พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ขับไล่ทายาทโดยธรรมของนายคงสิทธิ์ กลีบบัว แล้วให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนพืชผลให้พ้นจากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรีภายใน 30 วัน
ทั้งนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้จับกุมดำเนินคดีนายคงสิทธิ์ กลีบบัว เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ในเขตอุทยานฯ บริเวณ บ้านคลิตี้หมู่ที่ 4 ตำบลชะเเล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และได้ตรวจยึดพื้นที่สวนยางพารา สวนไม้ไผ่ตง แปลงไร่มันสำปะหลัง และทุ่งหญ้า รวมเนื้อที่ 592 ไร่ 2 งาน 58 ตารางวา พร้อมด้วยเรือนไม้ 5 หลัง โรงเรือนเก็บยางพารา 1 หลัง โรงจอดรถ 1 หลัง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2561 พนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรีมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยระบุว่า ขาดเจตนากระทำผิด แต่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงูเห็นว่า แม้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากขาดเจตนากระทำผิด แต่ไม่ใช่เนื่องจากที่ดินของนายคงสิทธิ์ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯ จึงยังมีอำนาจขับไล่และให้รื้อถอนโดยเทียบเคียงคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อผู้บุกรุกถึงแก่ความตายเมื่อปีที่แล้ว จึงต้องดำเนินการต่อทายาท หากทายาทยังดื้อแพ่ง ไม่ออกไปภายใน 30 วัน จะถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง มีโทษจำคุก 1 ปี ถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับรายวันอีกวันละ10,000บาท จนกว่าจะรื้อถอนเสร็จ นอกจากนี้ถ้าทางราชการเข้าไปรื้อถอนเอง จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนให้ทางราชการ 1,640,000 บาท และอาจถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15) อาจถูกยึดเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้าเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในการปลูกยางพาราในเขตอุทยานแห่งชาติเพื่อการค้าน้ำยางพาราต่อไปด้วย
นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงูกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก หลังจากรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและพืชผลแล้ว จะร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลชะแลและชุมชนบ้านคลิตี้ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ให้เป็นแห่งอาหารสัตว์ป่า เป็นแหล่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่าต่อไป. – สำนักข่าวไทย