ผบ.ตร.หวังกัมพูชาจะร่วมมือส่ง “ก๊กอาน” มาดำเนินคดี

บช.ก. 17 ก.ค. – ผบ.ตร.หวังกัมพูชาจะให้ความร่วมมือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “คดีก๊กอาน” หากเมินเฉย ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีก๊กอาน ว่า คดีนี้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นสัญชาติไทย 5 คน และสัญชาติกัมพูชา 2 คน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ผู้ต้องหาสัญชาติไทย 5 คนนั้น ได้สัญชาติไทยมาได้อย่างไร รวมถึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของบัตรประชาชนคนไทยด้วย ส่วนเรื่องการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ด้วยความที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักรจึงต้องให้พนักงานอัยการเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนั้นก็จะออกหมายแดงประสานตำรวจสากล ให้ช่วยติดตามจับกุมตัว เพราะในบรรดาแต่ละประเทศก็มีสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนอยู่แล้ว เมื่อถามถึงความคาดหวังที่จะได้รับความร่วมมือจากตำรวจกัมพูชานั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่า เราต้องมีความคาดหวังจากหมายแดง แต่ถ้าหากกัมพูชาไม่ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาให้ก็ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้น ซึ่งทางตำรวจไทยก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดีให้ได้.-419-สำนักข่าวไทย

ประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดง “ก๊ก อาน”

กทม. 15 ก.ค.-“บิ๊กหวาน” เผยอยู่ระหว่างประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดง “ก๊ก อาน” ล่าตัวไส้ศึกคนไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ของนายก๊ก อาน นายทุนรายใหญ่ชาวกัมพูชา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับองค์การตำรวจสากล (Interpol) เพื่อขอออกหมายแดงสำหรับผู้ต้องหาในเครือข่าย พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า หลังจากที่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 6 รายวันนี้ ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากคดีนี้มีความเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการติดตามหาแหล่งฟอกเงินของเครือข่ายที่คาดว่าตั้งอยู่ในต่างประเทศ “เส้นทางการเงินที่นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 6 รายล่าสุดนั้น มีขนาดใหญ่และมีความชัดเจนมาก ซึ่งน่าจะนำไปสู่การขยายผลถึงแหล่งฟอกเงินได้ โดยวิธีการฟอกเงินในประเทศไทยของเครือข่ายนี้คือการลงทุนในสินทรัพย์ส่วนบุคคล เช่น การซื้อบ้านและรถยนต์” จตช. กล่าว ส่วนของความเชื่อมโยงกับคนไทย พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ และหากพบว่ามีคนไทยร่วมขบวนการจริง จะมีการดำเนินคดีด้วยโทษสูงสุดในฐานะ ‘ไส้ศึก’ ส่วนในรูปแบบการลงทุนทำธุรกิจร่วมกับคนไทยนั้นยังไม่พบข้อมูล แต่สำหรับบ้านที่ถูกซื้อไว้ ทราบว่าเป็นสถานที่สำหรับฟอกเงินและเป็นที่พักให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ที่เดินทางมาพักในประเทศไทยก่อนจะไปยังประเทศที่สาม พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ตำรวจไทยจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเครือข่ายดังกล่าวไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังติดตามคดีนี้อยู่เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี

ตร.แถลงคดี “บอส วรยุทธ” ยังไร้ข้อมูลหนีซุกประเทศใด

กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับไม่มีข้อมูลยืนยันว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา หลบหนีอยู่ในประเทศใดในโลกนี้ หลังพบข้อมูลเดินทางออกไปจากประเทศไทยในปี 2560 ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันใช้ช่องทางหมายแดงของตำรวจสากล ประสานข้อมูลกับประเทศสมาชิก เพื่อสืบทราบถิ่นที่อยู่

อินเตอร์โพลออกหมายแดง “บอส” แล้ว

องค์การตำรวจสากลตอบรับดำเนินการออกหมายแดง เพื่อตามตัวนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา แล้ว จากนี้หากนายวรยุทธเดินทางเข้าออกในประเทศสมาชิกอินเตอร์โพล ก็จะมีการแจ้งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ทราบถึงถิ่นที่อยู่

เลบานอนสั่งห้ามอดีตประธานนิสสันเดินทางออกนอกประเทศ

อัยการเลบานอนสั่งห้ามนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน เดินทางออกนอกประเทศ หลังจากเขาถูกเรียกตัวมาสอบปากคำเกี่ยวกับ ”หมายแดง” ของตำรวจสากล

...