มูลนิธิชัยพัฒนารับมอบเงินเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์จากแบงก์กรุงเทพ-ซัยโจ เด็นกิ

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – มูลนิธิชัยพัฒนา รับมอบเงินจากธนาคารกรุงเทพ และบริษัท ซัยโจ เด็นกิ สำหรับจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อลดการติดเชื้อในโรงพยาบาล รวมทั้งส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและหน้ากาก N95 ให้โรงพยาบาล 5 แห่ง


นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา รับมอบเงิน 20 ล้านบาท จากนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จากนั้น นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มอบเงินอีก 20 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อลดการติดเชื้อในโรงพยาบาล นอกจากนี้ ทางซัยโจ เด็นกิ ยังสนับสนุนเครื่องช่วยหายใจและหน้ากาก N95 แก่โรงพยาบาล 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 5 เครื่อง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล 9 เครื่อง และหน้ากาก N95 จำนวน 1,000 ชิ้น โรงพยาบาลปากเกร็ด 5 เครื่อง โรงพยาบาลปทุมธานี 3 เครื่อง และศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน 3 เครื่อง มูลค่า 7,500,000 บาท

ทั้งนี้ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้นำเสนอนวัตกรรมระบบแลกเปลี่ยนอากาศความดันลบ (Negative Pressure) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย ลดการติดเชื้อ ซึ่งพัฒนามาจากเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ ซึ่งสามารถควบคุมทิศทางการไหลเวียนของอากาศภายในห้อง จากบุคลากรทางการแพทย์ (โซนสะอาด) ไปยังผู้ป่วย COVID-19 (โซนเชื้อโรค) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากผู้ป่วยมาสู่บุคลากรทางการแพทย์ ด้วยการนำอากาศใหม่ 100% (Fresh Air) เติมเข้าสู่ภายในห้องตลอดเวลา เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคภายในห้องอย่างรวดเร็ว และทำให้ระบบดังกล่าวสามารถปรับความชื้นสัมพัทธ์ และมีประสิทธิภาพในการสร้างแรงดันลบ (Negative Pressure)


สำหรับระบบที่พัฒนาขึ้นได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของ WHO และ CDC สหรัฐอเมริกา เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากภายในห้อง ไหลออกสู่บริเวณภายนอก เช่น ชุมชน หรือส่วนอื่นๆ ภายในโรงพยาบาล ตลอดจนผ่านการทดสอบประสิทธิภาพโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่ามีความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์และชุมชนอีกด้วย ซึ่งทาง “ซัยโจ เด็นกิ” ได้จดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญานี้แล้ว

ตั้งแต่ต้นปี 2564 บริษัท ซัยโจ เด็นกิ ได้ติดตั้งระบบแลกเปลี่ยนอากาศด้วยระบบความดันลบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ไปติดตั้งในหอผู้ป่วยวิกฤติ ห้องผ่าตัดแล้ว รวมกว่า 1,000 เตียงทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนอาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ปรับให้เป็นหอรับผู้ป่วยวิกฤติ COVID-19 ได้จำนวนมากถึง 41 เตียง มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท โดยใช้เวลาติดตั้งเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น จากนี้ไปจะต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งในหอผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงในสถานที่ทำงานและบ้านอยู่อาศัย เพื่อช่วยลดการติดเชื้อ และสร้างอากาศสะอาดในสถานที่ต่างๆ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง