สำนักข่าวไทย 14 มิ.ย.- ร้านนวด-ร้านสัก ทั่วกรุงฯ ทยอยเปิดรับลูกค้าวันแรก ขณะที่บางร้าน รอดูสถานการณ์ เปิดพรุ่งนี้ หวังคำสั่งรอบนี้จะไม่ถูกชะลออีก เพราะเดือดร้อน ไม่มีรายได้มานานกว่า 1 เดือน
บรรยากาศร้านนวดย่านถนนข้าวสาร เขตพระนคร กทม. เริ่มทยอยเปิดร้านรับลูกค้าวันแรก หลังกทม.ประกาศคลายล็อกกิจการ 5 ประเภท ทั้งพิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ คลินิกเสริมความงาม ร้านนวดฝ่าเท้า ร้านทำเล็บ ร้านสัก เริ่ม 14 มิ.ย.นี้ แต่ร้านนวดบางร้านยังคงรอเปิดพรุ่งนี้ เพราะกลัวว่าจะเหมือนคราวที่แล้ว และขอรอดูสถานการณ์ก่อน
ส่วนร้านนวดสมูทมาสซาจ นวดเพื่อสุขภาพ ย่านถนนข้าวสาร ตัดสินใจเปิดวันนี้เป็นวันแรก เนื่องจากไม่อยากรอ เพราะมีลูกค้าร้านนวดประจำสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นางบุญเทียม บุตรทิจักร หมอนวดประจำร้าน บอกว่า ดีใจมากที่ได้กลับมาทำงานสักที แม้ว่าจะให้เปิดแค่นวดฝ่าเท้า ก็ดีกว่าถูกสั่งปิด หลังหยุดไปนานกว่าเดือนไม่มีรายได้เลย ต้องกลับบ้านที่มุกดาหาร เพิ่งกลับเข้า กทม.ช่วงที่มีข่าวว่า กทม.ประกาศเปิดเมื่อรอบวันที่ 1 มิ.ย.แต่ถูก ศบค.สั่งเบรก เลยอยู่ต่อและหวังว่ารอบวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะไม่เป็นเช่นครั้งก่อน เพราะเดือดร้อนหนักไม่มีรายได้ ค่าเช่าห้องก็ต้องจ่าย
ด้านนางศิริกัญญา สุวรรณ ลูกค้าที่มาใช้บริการร้านนวดสมูทมาสซาจรายแรก บอกว่า ติดตามข่าวมาตลอดว่า กทม.จะมีคำสั่งเปิดร้านนวดเมื่อไหร่ เพราะรอนวดมานาน เนื่องจากตนเองนวดเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพราะเรื่องสุขภาพ หากไม่นวดเส้นจะตึงและเส้นยึด หลังจากร้านนวดปิดต้องกินยาคลายเส้นแทน พอรู้ว่าร้านนวดจะเปิดวันนี้ เลยรีบโทรจอง แม้จะให้นวดแค่เท้าก็ยังดี เพราะเข้าใจว่า ถ้านวดทั้งตัว จะเป็นการใกล้ชิดเกินไป ทั้งนี้มั่นใจในร้านนวดร้านนี้ เพราะมีมาตรฐานตามที่สาธารณะสุขกำหนด ทั้งเว้นระยะห่าง พนักงานสวมหน้ากากอนามัยตลอด และมีการวัดอุณหภูมิ ฆ่าเชื้อ
ขณะที่ร้านสัก บนถนนข้าวสาร ส่วนใหญ่เริ่มทยอยกลับมาจัดเตรียมสถานที่ และทำความสะอาดอุปกรณ์สัก เพื่อเตรียมเปิดรับลูกค้า ซึ่งจะเริ่มเปิดในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากรอดูสถานการณ์ก่อน อย่างร้าน BIGGA INK TATTOO STUDIO ถนนข้าวสาร นายสิวาวุธ ชัยชนะ เจ้าของร้าน บอกว่า จะเริ่มเปิดร้านในวันพรุ่งนี้ (15 มิ.ย.) เพราะรอจัดเตรียมหน้าร้านให้เรียบร้อยก่อน และขอรอดูความชัดเจนก่อน ว่าจะไม่เหมือนคราวที่แล้ว ที่ กทม.ประกาศเปิดช่วงเช้า และช่วงค่ำ ศบค.สั่งชะลอ พร้อมเรียกร้องภาครัฐ อย่าประกาศปิดร้านสักแบบเหมารวม ขอให้ดูเป็นรายกรณีไป หากมีการระบาดในย่านนั้นๆ หากประกาศปิดก็ยอมรับได้ แต่ขออย่าประกาศแบบเหมารวม เพราะร้านสักโดนคำสั่งปิดมาตลอด ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด กว่า 3 รอบแล้ว รวมๆ เกือบ 5 เดือน เดือดร้อนหนัก เนื่องจากค่าเช่าตึกก็ต้องจ่าย ค่าลูกน้องก็ต้องจ่าย ยอมรับเปิดร้านสักมา 4 ปี วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้สาหัสที่สุด เพราะค่าเช่าตึกเดือนละเกือบแสนยังคงต้องจ่ายทุกเดือน ที่ผ่านมาไม่เคยหวังเรื่องการเยียวยา เพราะขั้นตอนยุ่งยากมาก แต่สิ่งที่หวังที่สุดคือ การได้เปิดรับลูกค้า และไม่ถูกสั่งปิดแบบเหมารวมอีก -สำนักข่าวไทย