กทม.ลุยตรวจร้านสักคลองหลอด

กทม.3 ก.ย.-กทม.ลุยตรวจร้านสักคลองหลอด หลังปรากฏข่าวมีสาวเสียชีวิตภายหลังการสักในร้านย่านดังกล่าว พบไม่สะอาด ไร้มาตรฐานสุขอนามัย ขณะที่ผู้ว่าฯกทม. เตรียมขยายผลตรวจสอบการบริการสักตามตลาดนัดในพื้นที่ กทม. 



จากกรณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านน้อยสนามบิน ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย เปิดเผยเรื่องราวของลูกบ้าน หลังได้รับแจ้งว่า ลูกสาวของลูกบ้านคนหนึ่งอายุ 22 ปี เสียชีวิตหลังจากไปสักลายพร้อมกับเพื่อนๆ โดยแพทย์ตรวจเลือดพบว่า ทั้ง 4 คนติดเชื้อเอชไอวี และเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ไม่นาน หลังไปสักลาย จากช่างสักที่บริเวณริมคลองหลอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 


วันนี้ (3ก.ย.) สำนักงานเขตพระนครและสำนักอนามัย ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านสักที่เป็นข่าว พบนายสมชาย อริยะ หรือ อ.เก่ง TATTOO เจ้าของร้านสัก ซึ่งลักษณะร้านเป็นรถจักรยานพร้อมอุปกรณ์เพื่อใช้เดินทางไปสักตามสถานที่ต่างๆ 


เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการสัก พบว่า อุปกรณ์ต่างๆไม่ได้มาตรฐานเรื่องของความสะอาด แม้นายสมชายจะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ให้ความสำคัญกับความสะอาดเพราะเปลี่ยนเข็มที่ใช้สักตลอดทุกครั้ง แต่จากการตรวจเข็มสัก แม้จะยังไม่ได้เปิดใช้ แต่อุปกรณ์ห่อเข็มหลุดลอกออก รวมทั้งอุปกรณ์ใส่สีสักก็ไม่ได้เปลี่ยนใหม่  ไม่มีเครื่องอบฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ ส่วนเครื่องสัก ก็ดัดแปลงประดิษฐ์ขึ้นมาเอง เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้นายสมชายหยุดให้บริการชั่วคราว และไปทำความสะอาดอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมาให้บริการ

พญ.อลิศรา ทัตตากร ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าร้านไม่มีความปลอดภัยตามหลักอนามัย เพราะทั้งเข็ม สีที่ใช้สัก อุปกรณ์ผสมสีสัก แม้ทางร้านยืนยันความสะอาด แต่ก็พบว่าไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเสี่ยงต่อโรคติดต่อได้ เช่น โรคดื้อยา หรืออาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จึงสั่งให้หยุดให้บริการชั่วคราว และส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมเรื่องของสุขอนามัย การทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์  

ส่วนนายสุรสิทธิ์ เหลืองรุ่งเกียรติ หัวหน้ากลุ่มสุขาภิบาลโรงงานและกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่า กทม.อาจไม่ได้มีการตรวจสอบหรือเก็บตัวเลขร้านสักในลักษณะแบกะดินเช่นนี้ ซึ่งปัจจุบันพบว่าตามตลาดนัดหรือชุมชนต่างๆ จำนวนเพิ่มมากขึ้น  ข้อมูลที่มีในมือตอนนี้ ร้านสักที่มาจดทะเบียนถูกต้องใน กทม.มีประมาณ 50 ร้านในเขตพระนคร มีประมาณ 15 ร้าน ซึ่งความเป็นจริงร้านสักใน กทม.มีจำนวนมาก หากพบเปิดร้านโดยไม่มีใบอนุญาตก็จะมีโทษซึ่งในอนาคต กทม.จะต้องประชุมวางแผน สำรวจตัวเลขที่ชัดเจน และเรียกผู้ประกอบการมาอบรมให้ความรู้เน้นความสำคัญเรื่องของสุขอนามัยให้กับกลุ่มอาชีพนี้

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า หลังเกิดข่าวขึ้นและมีชื่อตัวเองเข้าไปเกี่ยวด้วย ยอมรับว่าตกใจมาก ยืนยันสักให้แค่คนเดียวไม่ใช่ทั้ง 4 คนตามที่เป็นข่าว  ซึ่งตลอด 10ปีที่เปิดร้านสัก ไม่เคยมีลูกค้าคนไหนมาบ่น หรือโวยวายมีปัญหาจากการสักของตน เพราะยึดความสะอาด ถ้าไม่อย่างนั้นต่างชาติที่เคยมาสักกับตนเองคงเสียชีวิตเป็นข่าวใหญ่โตแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาตรวจ ตนก็คงต้องทำตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดเหตุผู้หญิง 4 รายจากการติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิต ซึ่งระบุว่ามีการสักลายภายในร้านย่านคลองหลอด โดยยอมรับว่าขั้นตอนการอนุญาต เปิดร้านเพื่อดำเนินการสักลาย เป็นหน้าที่หลักของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่ง กทม. พร้อมลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบ โดยตามอำนาจหน้าที่ กทม.สามารถจับ-ปรับได้ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ศ.2535 เท่านั้น 

ส่วนการเปิดร้านบริการสักคิ้วหรือสักลายต่างๆตามตลาดนัดในพื้นที่ กทม. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยมากที่สุด

สำหรับการเปิดกิจการร้านสักต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งต้องขออนุญาตจากสำนักงานเขตในแต่ละพื้นที่ โดยมีข้อกำหนดให้สถานประกอบการ มีหลักเกณฑ์ดังนี้ 1. มีเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น 2. มีหลักฐานการกำจัดอุปกรณ์ติดเชื้อ เข็มสัก ในสถานที่ที่สาธารณสุขรับรอง 

3. มีหลักฐานรับรองคุณภาพสีว่าเป็นสีที่ใช้ในการประกอบการสัก ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือผิวหนังของมนุษย์ 4. ต้องมีป้ายแสดงกฎข้อห้ามในการปฏิบัติตัวระหว่างสัก 5. ต้องมีการกั้นแบ่งส่วนพื้นที่ในการสักอย่างชัดเจน 6. ต้องมีการแยกส่วนพื้นที่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างชัดเจน 7. ต้องมีใบยินยอมในการสักและลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้า .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]