กทม.ลุยตรวจร้านสักคลองหลอด

กทม.3 ก.ย.-กทม.ลุยตรวจร้านสักคลองหลอด หลังปรากฏข่าวมีสาวเสียชีวิตภายหลังการสักในร้านย่านดังกล่าว พบไม่สะอาด ไร้มาตรฐานสุขอนามัย ขณะที่ผู้ว่าฯกทม. เตรียมขยายผลตรวจสอบการบริการสักตามตลาดนัดในพื้นที่ กทม. 



จากกรณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านน้อยสนามบิน ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย เปิดเผยเรื่องราวของลูกบ้าน หลังได้รับแจ้งว่า ลูกสาวของลูกบ้านคนหนึ่งอายุ 22 ปี เสียชีวิตหลังจากไปสักลายพร้อมกับเพื่อนๆ โดยแพทย์ตรวจเลือดพบว่า ทั้ง 4 คนติดเชื้อเอชไอวี และเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ไม่นาน หลังไปสักลาย จากช่างสักที่บริเวณริมคลองหลอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 


วันนี้ (3ก.ย.) สำนักงานเขตพระนครและสำนักอนามัย ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านสักที่เป็นข่าว พบนายสมชาย อริยะ หรือ อ.เก่ง TATTOO เจ้าของร้านสัก ซึ่งลักษณะร้านเป็นรถจักรยานพร้อมอุปกรณ์เพื่อใช้เดินทางไปสักตามสถานที่ต่างๆ 


เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการสัก พบว่า อุปกรณ์ต่างๆไม่ได้มาตรฐานเรื่องของความสะอาด แม้นายสมชายจะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ให้ความสำคัญกับความสะอาดเพราะเปลี่ยนเข็มที่ใช้สักตลอดทุกครั้ง แต่จากการตรวจเข็มสัก แม้จะยังไม่ได้เปิดใช้ แต่อุปกรณ์ห่อเข็มหลุดลอกออก รวมทั้งอุปกรณ์ใส่สีสักก็ไม่ได้เปลี่ยนใหม่  ไม่มีเครื่องอบฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ ส่วนเครื่องสัก ก็ดัดแปลงประดิษฐ์ขึ้นมาเอง เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้นายสมชายหยุดให้บริการชั่วคราว และไปทำความสะอาดอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมาให้บริการ

พญ.อลิศรา ทัตตากร ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าร้านไม่มีความปลอดภัยตามหลักอนามัย เพราะทั้งเข็ม สีที่ใช้สัก อุปกรณ์ผสมสีสัก แม้ทางร้านยืนยันความสะอาด แต่ก็พบว่าไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเสี่ยงต่อโรคติดต่อได้ เช่น โรคดื้อยา หรืออาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จึงสั่งให้หยุดให้บริการชั่วคราว และส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมเรื่องของสุขอนามัย การทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์  

ส่วนนายสุรสิทธิ์ เหลืองรุ่งเกียรติ หัวหน้ากลุ่มสุขาภิบาลโรงงานและกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่า กทม.อาจไม่ได้มีการตรวจสอบหรือเก็บตัวเลขร้านสักในลักษณะแบกะดินเช่นนี้ ซึ่งปัจจุบันพบว่าตามตลาดนัดหรือชุมชนต่างๆ จำนวนเพิ่มมากขึ้น  ข้อมูลที่มีในมือตอนนี้ ร้านสักที่มาจดทะเบียนถูกต้องใน กทม.มีประมาณ 50 ร้านในเขตพระนคร มีประมาณ 15 ร้าน ซึ่งความเป็นจริงร้านสักใน กทม.มีจำนวนมาก หากพบเปิดร้านโดยไม่มีใบอนุญาตก็จะมีโทษซึ่งในอนาคต กทม.จะต้องประชุมวางแผน สำรวจตัวเลขที่ชัดเจน และเรียกผู้ประกอบการมาอบรมให้ความรู้เน้นความสำคัญเรื่องของสุขอนามัยให้กับกลุ่มอาชีพนี้

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า หลังเกิดข่าวขึ้นและมีชื่อตัวเองเข้าไปเกี่ยวด้วย ยอมรับว่าตกใจมาก ยืนยันสักให้แค่คนเดียวไม่ใช่ทั้ง 4 คนตามที่เป็นข่าว  ซึ่งตลอด 10ปีที่เปิดร้านสัก ไม่เคยมีลูกค้าคนไหนมาบ่น หรือโวยวายมีปัญหาจากการสักของตน เพราะยึดความสะอาด ถ้าไม่อย่างนั้นต่างชาติที่เคยมาสักกับตนเองคงเสียชีวิตเป็นข่าวใหญ่โตแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาตรวจ ตนก็คงต้องทำตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดเหตุผู้หญิง 4 รายจากการติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิต ซึ่งระบุว่ามีการสักลายภายในร้านย่านคลองหลอด โดยยอมรับว่าขั้นตอนการอนุญาต เปิดร้านเพื่อดำเนินการสักลาย เป็นหน้าที่หลักของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่ง กทม. พร้อมลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบ โดยตามอำนาจหน้าที่ กทม.สามารถจับ-ปรับได้ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ศ.2535 เท่านั้น 

ส่วนการเปิดร้านบริการสักคิ้วหรือสักลายต่างๆตามตลาดนัดในพื้นที่ กทม. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยมากที่สุด

สำหรับการเปิดกิจการร้านสักต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งต้องขออนุญาตจากสำนักงานเขตในแต่ละพื้นที่ โดยมีข้อกำหนดให้สถานประกอบการ มีหลักเกณฑ์ดังนี้ 1. มีเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น 2. มีหลักฐานการกำจัดอุปกรณ์ติดเชื้อ เข็มสัก ในสถานที่ที่สาธารณสุขรับรอง 

3. มีหลักฐานรับรองคุณภาพสีว่าเป็นสีที่ใช้ในการประกอบการสัก ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือผิวหนังของมนุษย์ 4. ต้องมีป้ายแสดงกฎข้อห้ามในการปฏิบัติตัวระหว่างสัก 5. ต้องมีการกั้นแบ่งส่วนพื้นที่ในการสักอย่างชัดเจน 6. ต้องมีการแยกส่วนพื้นที่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างชัดเจน 7. ต้องมีใบยินยอมในการสักและลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้า .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก ฝน70%

กทม. 31 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ ส่วนภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะไหหลำ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ออกประกาศ 31 พฤษภาคม 2568 พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. […]

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]