มูลนิธิเอดส์ เฮลท์ แคร์ ห่วงเยาวชนไทยติดเชื้อเอชไอวีสูง เร่งสร้างความตระหนักใช้ถุงยางอนามัย

รณรงค์ใช้ถุงยาง

กทม. 13 ก.พ. – มูลนิธิเอดส์ เฮลท์ แคร์ (ประเทศไทย) เผยเยาวชนไทยอายุ 15-24 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราการติดเชื้อเอชไอวีสูงเกือบครึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ขณะที่อัตราป่วยโรคซิฟิลิสและโรคหนองในโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ หลังผลสำรวจวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัยเพียง 43 % อาจส่งผลต่อสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต


มูลนิธิเอดส์ เฮลท์ แคร์ (ประเทศไทย) ร่วมกับ Impulse Bangkok และโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา จัดกิจกรรมวันถุงยางอนามัยสากล ประจำปี 2025 ภายใต้แนวคิด “Just Use It : ใช้เถอะ” เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัยที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี รวมถึงการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ พร้อมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ โดยได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรีสุธีระ เดชคำภู รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารทั่วไป โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา, Dr. Yugang Bao รองผู้อำนวยการมูลนิธิเอดส์ เฮลท์ แคร์ ภูมิภาคเอเชีย, นายกฤษสยาม อารยะวงค์ไชย ผู้อำนวยการมูลนิธิเอดส์ เฮลท์ แคร์ (ประเทศไทย) และหมอก้อง ก้องณพัฒน์ จิโรจธนพงศ์ (ช่องนางโรมโคมเขียว) อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ร่วมพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 700 คน ณ หอประชุมโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา กรุงเทพฯ

นายกฤษสยาม อารยะวงค์ไชย ผู้อำนวยการมูลนิธิเอดส์ เฮลท์ แคร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเยาวชนยังมีความน่าเป็นห่วง จากข้อมูลปี 2566* รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ จำนวน 9,083 คน จำแนกเป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี สูงถึง 4,236 คน คิดเป็นร้อยละ 46.6 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่สูงที่สุด สำหรับสถานการณ์เอชไอวีกรุงเทพมหานคร ปี 2567* พบว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ จำนวน 1,095 คน จำแนกเป็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี จำนวน 478 คน คิดเป็นร้อยละ 44


ขณะที่ข้อมูลจากแพลตฟอร์มเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (กองระบาดวิทยา) ของกรุงเทพมหานคร พบว่า กลุ่มเยาวชนช่วงอายุ 15-29 ปี ป่วยเป็นโรคซิฟิลิส จำนวน 1,223 คน คิดเป็นอัตราป่วย 119.984 ต่อประชากรแสนคน และพบผู้ป่วยโรคหนองใน จำนวน 850 คน คิดเป็นอัตราป่วย 83.399 ต่อประชากรแสนคน ถือเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงมาก สอดคล้องกับผลสำรวจพฤติกรรมทางสุขภาพเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มเด็กและเยาวชน (ทั่วประเทศ) ปี 2567 ที่พบว่ามีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งในการมีเพศสัมพันธ์เพียง 43%, ใช้บางครั้งและเกือบทุกครั้ง 33% และไม่ใช้เลย 24% จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งโดยเฉพาะกลุ่มสุดท้ายที่ไม่ใช้ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์เลย AHF ประเทศไทย จึงต้องเร่งขับเคลื่อนประเด็นนี้ร่วมกับทุกภาคส่วน และเห็นว่าโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่ที่เหมาะสม จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพราะ AHF เชื่อว่าการสร้างความตระหนักให้เยาวชนเห็นถึงความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัยบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม จะช่วยปกป้องลูกหลานของเราให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี รวมถึงลดจำนวนคุณแม่วัยใสลงได้ และส่งผลให้สถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีลดลง มุ่งสู่เป้าหมายยุติเอดส์ภายในปี 2573 พร้อมกับประชาคมโลก

ว่าที่ร้อยตรีสุธีระ เดชคำภู รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารทั่วไป โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา กล่าวว่า โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดาเป็นโรงเรียนสหศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 มีวิสัยทัศน์เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ปลอดภัย ยึดหลักธรรมาภิบาล และมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมและคุณธรรม ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 1,067 คน โรงเรียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมจากทุก ภาคส่วน รวมถึงการปลูกฝังความรู้ด้านสุขภาวะทางเพศ เพื่อให้นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม กิจกรรมวันถุงยางอนามัยสากลในวันนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางเพศ และเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม

นอกจากนี้ ภายในงานมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ชื่อว่า “Just Use It (ใช้เถอะ)” โดยแขกรับเชิญพิเศษ หมอก้อง ก้องณพัฒน์ จิโรจธนพงศ์ (ช่องนางโรมโคมเขียว) ที่มาร่วมแบ่งปันความรู้ด้านเพศวิทยา ทัศนคติมุมมองเชิงบวกและส่งเสริมความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัยให้กับน้อง ๆ นักเรียน ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากวงดนตรี “FOOL STEP” จากค่าย Genie Records. -415 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]