เบงกาลูรู/นิวเดลี 13 พ.ค. – อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากกว่า 4,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่สอง และพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 400,000 คน เป็นวันที่สี่ ในขณะที่สถานการณ์ระบาดได้แพร่กระจายไปสู่พื้นที่ชนบท ซึ่งอาจทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อไม่ตรงตามความจริง เนื่องจากเข้าไม่ถึงการตรวจโควิด
กระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อ 362,727 คน และผู้เสียชีวิต 4,120 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 23.7 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 258,000 คน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังคงไม่แน่ใจว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในอินเดียจะพุ่งสู่ระดับสูงสุดเมื่อใด และมีความวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียที่ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อในอินเดียเพิ่มสูงขึ้น และกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก
ในขณะเดียวกัน โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของอินเดีย ยังคงประสบปัญหาล่าช้า เนื่องจากเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัคซีน แม้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้ประกาศฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่รัฐกรณาฏกะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเบงการูลูที่เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของอินเดีย และรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครมุมไบ ได้ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนในประชาชนอายุ 18-44 ปี ออกไปชั่วคราว เพราะต้องการฉีดวัคซีนโดสที่สองให้แก่ชาวอินเดียอายุ 45 ปีขึ้นไปก่อน อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่กลับมีวัคซีนสำรองเหลือน้อยจนไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ อินเดียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนไปเพียงกว่า 38.2 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 2.8 จากประชากรทั้งหมดราว 1,350 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย