Philippines' Marcos vows to fight back

ปธน.ฟิลิปปินส์โต้เดือดหลังถูกรองปธน.ขู่ฆ่า

มะนิลา 25 พ.ย.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ประกาศจะสู้กลับ หลังจากรองประธานาธิบดีที่มีปัญหากันกล่าวว่า เธอได้สั่งคนให้ลอบสังหารเขาหากเธอถูกสังหาร ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ วัย 67 ปี กล่าวในการบันทึกเทปถึงประชาชนทั่วประเทศอย่างแข็งกร้าวว่า ถ้อยคำที่มีผู้พูดในช่วงหลายวันมานี้กำลังก่อปัญหา เป็นการใช้คำสาบและคำขู่อย่างไร้ความยั้งคิดว่าจะสังหารคนอื่น หากการวางแผนการลอบสังหารประธานาธิบดีเป็นเรื่องง่ายดายเช่นนั้น แล้วประชาชนคนธรรมดาจะเป็นอย่างไร จึงไม่ควรมองข้ามการวางแผนก่ออาชญากรรมเช่นนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวโดยไม่ได้ระบุชื่อนางซารา ดูเตอร์เต รองประธานาธิบดีหญิงวัย 46 ปี ที่เป็นผู้สมัครคู่กับเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีปี 2565 และเป็นบุตรสาวคนโตของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต หลังจากที่เธอตอบคำถามระหว่างการแถลงข่าวทางออนไลน์เมื่อวันเสาร์ว่า เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ว่า เธอได้สั่งให้คนลอบสังหารนายมาร์กอส จูเนียร์ รวมถึงภรรยาของเขาและประธานสภาผู้แทนราษฎร หากเธอถูกลอบสังหาร คำตอบที่ดุดันดังกล่าวสะท้อนถึงความขัดแย้งล่าสุดระหว่างตระกูลมาร์กอสกับตระกูลดูเตอร์เตที่รุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ความเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของทั้ง 2 ตระกูลพังลง หลังจากที่จับมือกันกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2565 ขณะเดียวกันนักเคลื่อนไหวชาวฟิลิปปินส์กลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมเรียกร้องให้สมาชิกสภาเปิดการไต่สวนเพื่อถอดถอนนางดูเตอร์เต จากการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมและการนำงบประมาณไปใช้จ่ายอย่างไม่เหมาะสม.-814.-สำนักข่าวไทย

Walz, Vance at the US vice presidential debate

ดีเบตผู้สมัครชิงรอง ปธน.สหรัฐปะทะกันเรื่องตะวันออกกลาง

นิวยอร์ก 2 ต.ค.- นายทิม วอลซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตและนายเจ ดี แวนซ์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันปะทะกันเรื่องสถานการณ์ในตะวันออกกลางในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตเช้าวันนี้ตามเวลาไทย นายวอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา วัย 60 ปี เปิดประเด็นการดีเบตผู้สมัครชิงรองประธานาธิบดี ซึ่งจัดขึ้นครั้งเดียวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐมีความไม่แน่นอนมากเกินกว่าที่จะไว้ใจได้ท่ามกลางวิกฤตในตะวันออกกลาง ขณะที่นายแวนซ์ สมาชิกวุฒิสภารัฐโอไฮโอ วัย 40 ปี ยืนยันว่า ทรัมป์ได้ทำให้โลกปลอดภัยมากขึ้นในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อข้อถามของผู้ดำเนินการดีเบตว่า จะสนับสนุนให้อิสราเอลให้มาตรการชิงโจมตีอิหร่านหรือไม่ นายแวนซ์ตอบว่า ขึ้นกับการตัดสินใจของอิสราเอล ขณะที่นายวอลซ์ไม่ตอบคำถามโดยตรง แต่หันไปวิจารณ์ทรัมป์ที่ถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2561 การดีเบตจัดขึ้นที่ห้องส่งของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) ย่านแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก ตั้งแต่เวลา 21.00-22.30 น.วันที่ 1 ตุลาคมตามเขตเวลาตะวันออก (ET) ตรงกับเวลา 08.00-09.30 น.วันนี้ตามเวลาไทย เว็บไซต์ซีบีเอสกล่าวถึงวอลซ์และแวนซ์ว่า ทั้งคู่เป็นคนหน้าใหม่สำหรับการเมืองระดับชาติ วอลซ์อยู่ในแวดวงการเมืองมานานแต่เป็นที่รู้จักเฉพาะในรัฐมินนิโซตาเท่านั้น ขณะที่แวนซ์ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือขายดีชื่อบันทึกหลังเขา (Hillbilly Elegy) เพิ่งได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2565 การดีเบตครั้งนี้มีขึ้นหลังจากคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส […]

“ทิม วอลซ์” ยอมรับเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิง รอง ปธน.

นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินิโซตา กล่าวปราศรัยในระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตวันที่ 3 ที่นครชิคาโก ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ ยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ

“แฮร์ริส” เลือก “ทิม วอลซ์” เป็นคู่ชิงรอง ปธน. สหรัฐ

รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ตัดสินใจเลือก ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เป็นคู่สมัครรองประธานาธิบดีในการลงสนามเลือกตั้งใหญ่ในปลายปีนี้ แข่งขันกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และ เจ ดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอ

“แฮร์ริส” จะเปิดตัวผู้สมัครคู่ชิงรอง ปธน.สหรัฐ

ฟิลาเดลเฟีย 31 ม.ค. – แหล่งข่าวเผยว่า นางคอมมาลา แฮร์ริส ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะเปิดตัวผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ และปราศรัยหาเสียงร่วมกันเป็นครั้งแรกที่รัฐเพนซิลเวเนีย ในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น การตัดสินใจเลือกผู้สมัครคู่กับนางแฮร์ริสกลายเป็นจุดสนใจ นับตั้งแต่ที่เธอเป็นตัวเต็งที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสละสิทธิและสนับสนุนเธอ สำหรับรายชื่อผู้ที่อยู่ในการพิจารณาเป็นผู้สมัครคู่กับแฮร์ริส วัย 59 ปี ได้แก่ นายจอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย วัย 51 ปี, นายแอนดี บะเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี วัย 46 ปี, สว. มาร์ก เคลลี รัฐแอริโซนา วัย 60 ปี, นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา วัย 60 ปี และนายพีต บูทิเจจ รัฐมนตรีคมนาคม วัย 42 ปี การเลือกปราศรัยหาเสียงกับผู้สมัครคู่เป็นครั้งแรกที่รัฐเพนซิลเวเนียทำให้นายชาปิโร […]

เปิดประวัติ “เจ ดี แวนซ์” ผู้สมัครคู่ชิงรอง ปธน.ของทรัมป์

โอไฮโอ 16 ก.ค.- เปิดประวัติ เจ ดี แวนซ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รัฐโอไฮโอที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศให้เป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี แวนซ์เกิดที่เมืองมิดเดิลทาวน์ รัฐโอไฮโอเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2527 เคยเป็นนาวิกโยธินในปี 2546-2550 ต่อมาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอและคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล จากนั้นทำงานด้านธุรกิจเงินร่วมลงทุน ก่อนหันมาเข้าสู่วงการการเมือง ภรรยาของเขา คือ อัชชา รู้จักกันที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล เป็นบุตรสาวของผู้อพยพชาวอินเดียที่เป็นอาจารย์ทั้งคู่ เธอทำงานด้านคดีความที่บริษัทกฎหมาย ซึ่งประกาศในวันเดียวกับที่มีการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันวันแรกว่า เธอได้ลาออกจากบริษัทแล้ว ทั้งคู่มีบุตรธิดาด้วยกัน 3 คน แวนซ์เปิดตัวหนังสือขายดีในปี 2559 ชื่อ บันทึกหลังเขา (Hillbilly Elegy) เล่าเรื่องราวชีวิตวัยเด็กที่เติบโตในย่านยากจน ทางฝั่งตะวันออกของเมืองชิคาโก และเรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มคนทำงานในสำนักงาน หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ในปี 2563 การที่เขาเข้าใจกลุ่มคนทำงานในสำนักงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยแรกปี 2559 ทำให้ได้รับเชิญไปให้ความเห็นในรายการโทรทัศน์บ่อยครั้งในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า แวนซ์เคยกดถูกใจข้อความแสดงความเห็นในปี […]

“ไบเดน” ชี้คนที่ “ทรัมป์” เลือกเป็นผู้สมัครคู่ไม่ต่างจากทรัมป์

ฐานทัพอากาศแอนดรูว์ส 16 ก.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐให้ความเห็นเรื่องบุคคลที่โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกเป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีว่า เป็นร่างโคลนของทรัมป์ ไม่มีความแตกต่างใด ๆ ประธานาธิบดีไบเดนตอบข้อถามสื่อที่ฐานทัพอากาศแอนดรูว์ส รัฐแมริแลนด์ ก่อนเดินขึ้นเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ เรื่องมีความเห็นอย่างไรต่อนายเจ ดี แวนซ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รัฐโอไฮโอที่ทรัมป์ประกาศเลือกเป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีว่า นายแวนซ์มีความเห็นเหมือนทรัมป์ทุกอย่างในประเด็นต่าง ๆ เขาจึงไม่เห็นว่าทั้ง 2 คนมีความแตกต่างกันแต่อย่างใด ทรัมป์ประกาศชื่อ สว.แวนซ์ วัย 39 ปี ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนเข้าร่วมการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันวันแรก 15 กรกฎาคมว่า แวนซ์จะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับประชาชนที่เขาได้ต่อสู้ให้อย่างยอดเยี่ยม คือ คนทำงานและเกษตรกรชาวอเมริกันในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน โอโฮโอ มินนิโซตา และรัฐอื่น ๆ สื่อตั้งข้อสังเกตว่า รัฐเหล่านี้เป็นรัฐในเขตมิดเวสต์หรือตะวันตกตอนกลางของสหรัฐ หลายรัฐจะมีบทบาทสำคัญต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ต่อมาที่ประชุมพรรคได้ให้การรับรองแวนซ์อย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน ด้านแวนซ์ ซึ่งเป็น สว.หน้าใหม่ ชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2565 หลังจากได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังได้รับเลือกจากทรัมป์ให้เป็นผู้สมัครคู่ชิงรองประธานาธิบดีว่า […]

“ทรัมป์” ได้รับการเสนอชื่อ-เลือกผู้สมัครคู่ชิงรอง ปธน.

มิลวอกี 16 ก.ค.- โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังรอดชีวิตจากเหตุลอบสังหาร ขณะที่ตัวเขาได้เลือกผู้ที่ลงสมัครคู่กับเขาชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้ว การประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเริ่มขึ้นเป็นวันแรกเมื่อวานนี้ ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญของพรรค คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50,000 คน ขณะที่ทรัมป์อยู่ที่มิลวอกีแล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมประชุม หลังรอดชีวิตจากพยายามลอบสังหารมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวันแรก ที่ประชุมพรรครีพับลิกันได้เสนอชื่ออย่างเป็นทางการ ให้ทรัมป์เป็นตัวแทนพรรค ลงสู้ศึกเลือกตั้งชิงทำเนียบขาว กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากเดโมแครต ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ทรัมป์จะตอบรับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กรกฎาคม ซึ่งเป๋นวันสุดท้ายของการประชุม ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ประกาศผ่านบัญชีสื่อออนไลน์ทรูโซเชียล (Truth Social) ของเขาเอง เลือก เจดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกอายุน้อย จากรัฐโอไฮโอ เป็นสมัครคู่กับเขาชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้ว ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี จากเสียงปรบมือโห่ร้องกึกก้อง ทันทีที่แวนซ์เดินทางมาถึงที่ประชุม แวนซ์ วัย 39 ปี เคยร่วมรณรงค์หาเสียงสนับสนุนทรัมป์ในหลายโอกาสในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ แม้เมื่อ 8 ปีก่อนเขาเคยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ก็ตาม ขณะที่หลายฝ่ายมองว่า […]

เม็กซิโกระงับสัมพันธ์กับเอกวาดอร์เหตุบุกสถานทูต

เม็กซิโกซิตี 6 เม.ย.- เม็กซิโกระงับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับเอกวาดอร์ หลังจากทางการเอกวาดอร์บุกจับกุมอดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตเม็กซิโกในกรุงกีโตของเอกวาดอร์ ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโกโพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า ตำรวจเอกวาดอร์ใช้กำลังบุกเข้าไปในสถานทูตเม็กซิโกในกรุงกีโต จับกุมนายฮอร์เฆ กลาส อดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์เมื่อเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เขาจึงได้สั่งการให้อาลิเซีย บาร์เซนา รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอวาดอร์ เนื่องจากการบุกจับดังกล่าวเป็นการกระทำแบบเบ็ดเสร็จ และเป็นการละเมิดกฎหมายสากลและอธิปไตยของเม็กซิโก หลังจากนั้นไม่นานนางบาร์เซนาโพสต์ผ่านเอ็กซ์ว่า เม็กซิโกขอระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอกวาดอร์ อดีตรองประธานาธิบดีกลาสถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหาทุจริต 2 คดี เขาหลบซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตเม็กซิโกตั้งแต่ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองเมื่อเดือนธันวาคม 2566 เม็กซิโกอนุมัติคำขอเมื่อวันศุกร์ ก่อนที่ตำรวจเอกวาดอร์บุกเข้ามาจับกุมในวันเดียวกัน ทำเนียบประธานาธิบดีเอกวาดอร์แถลงว่า ได้จับกุมนายกลาสที่เป็นรองประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลราฟาเอล กอร์เรอาระหว่างปี 2556-2560 และนำตัวไปยังศาลแขวงในกรุงกีโต โดยมีการวางกำลังทหารรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา แถลงการณ์ยังได้ตำหนิเม็กซิโกว่าอนุมัติให้นายกลาสลี้ภัยอย่างผิดกฎหมาย การบุกจับกุมอดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์เป็นความตึงเครียดล่าสุดระหว่างเม็กซิโกที่อยู่ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาเหนือ กับเอกวาดอร์ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ หลังจากเอกวาดอร์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีให้เอกอัครราชทูตเม็กซิโกในกรุงกีโตเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา อันเนื่องจากการที่ผู้นำเม็กซิโกแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้งนองเลือดในเอกวาดอร์เมื่อปีก่อนที่มีการลอบสังหารผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี.-814.-สำนักข่าวไทย

“ไมค์ เพนซ์” จะไม่หนุน “ทรัมป์” ในการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐ

ไมค์ เพนซ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเวลา 4 ปีในช่วงที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าววานนี้ว่า เขาจะไม่สนับสนุนนายทรัมป์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้

ผู้สมัครชิง ปธน.ของรัฐบาลไต้หวันเผยนโยบายเรื่องจีน

ไทเป 9 ม.ค.- นายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันและตัวแทนพรรครัฐบาลในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 13 มกราคมนี้เผยว่า จะคงสถานภาพปัจจุบันกับจีนและเปิดรับการติดต่อกับจีนหากได้รับการเลือกตั้ง รองประธานาธิบดีไล่ วัย 64 ปี พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนางเซียว เหม่ยฉี ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีวัย 52 ปีที่กรุงไทเปในวันนี้ว่า เขาจะคงนโยบายที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อไต้หวันและประชาคมโลก เขาจะคงสถานภาพปัจจุบันและเดินหน้าทำให้สังคมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้กรอบของสาธารณรัฐจีน ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของไต้หวัน ประตูของไต้หวันจะยังคงเปิดเสมอให้แก่การติดต่อกับรัฐบาลจีน บนหลักการของความเสมอภาคและศักด์ศรี อย่างไรก็ดี แม้ว่าไต้หวันปรารถนาสันติภาพ แต่ก็ไม่สามารถมีภาพลวงตาได้ การยอมรับหลักการจีนเดียวไม่ใช่สันติภาพที่แท้จริง การไม่มีอำนาจอธิปไตยที่ชอบธรรมเป็นสันติภาพลวงดังที่เกิดขึ้นกับฮ่องกง ดังนั้นจุดยืนของไต้หวันคือการสร้างอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ รองประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวว่า จีนได้แทรกแซงการเลือกตั้งใหญ่ของไต้หวันทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีความสำคัญมากที่สุด จีนได้แสดงเจตนาออกมาชัดเจนอย่างยิ่ง โดยพยายามใช้สงครามและสันติภาพมามีอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้ง หวังสร้างรัฐบาลฝักใฝ่จีน ประชาชนชาวไต้หวันจะใช้คะแนนเสียงที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้แสดงออกถึงอำนาจประชาธิปไตยและป้องกันการแทรกแซงของจีน.-814.-สำนักข่าวไทย

ตัวเก็ง ปธน.ไต้หวันเลือกอดีตทูตประจำสหรัฐเป็นผู้สมัครคู่

ไทเป 20 พ.ย.- นายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันที่เป็นตัวเก็งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งวันที่ 13 มกราคม 2567 เลือกอดีตทูตไต้หวันประจำสหรัฐเป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี นายไล่วัย 64 ปี ตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี (DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลประกาศว่า ได้เลือกนางเซียว เหม่ยฉี วัย 52 ปี เป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เธอได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ไต้หวันกับสหรัฐมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายปีมานี้ เขามั่นใจว่า เขาและนางเซียวจะประสบความสำเร็จในการรวบรวมฉันทามติของประชาชนและผนึกทุกกำลังได้ในช่วง 50 วันสุดท้ายเพื่อชนะการเลือกตั้ง และเพื่อให้ไต้หวันเดินหน้าไปอย่างมั่นคง นางเซียวดำรงตำแหน่งผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ และรักษาการในตำแหน่งจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้แทนคนใหม่ เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในสหรัฐและไต้หวัน เป็นนักการทูตที่มีสายสัมพันธ์และประสบการณ์สูง แต่ถูกจีนมองว่า เป็นพวกดื้อรั้นในการแยกตัวเป็นเอกราช และเคยถูกจีนคว่ำบาตรมาแล้ว 2 ครั้ง.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 5
...