fbpx

เม็กซิโกระงับสัมพันธ์กับเอกวาดอร์เหตุบุกสถานทูต

เม็กซิโกซิตี 6 เม.ย.- เม็กซิโกระงับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับเอกวาดอร์ หลังจากทางการเอกวาดอร์บุกจับกุมอดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตเม็กซิโกในกรุงกีโตของเอกวาดอร์ ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโกโพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า ตำรวจเอกวาดอร์ใช้กำลังบุกเข้าไปในสถานทูตเม็กซิโกในกรุงกีโต จับกุมนายฮอร์เฆ กลาส อดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์เมื่อเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เขาจึงได้สั่งการให้อาลิเซีย บาร์เซนา รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอวาดอร์ เนื่องจากการบุกจับดังกล่าวเป็นการกระทำแบบเบ็ดเสร็จ และเป็นการละเมิดกฎหมายสากลและอธิปไตยของเม็กซิโก หลังจากนั้นไม่นานนางบาร์เซนาโพสต์ผ่านเอ็กซ์ว่า เม็กซิโกขอระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอกวาดอร์ อดีตรองประธานาธิบดีกลาสถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหาทุจริต 2 คดี เขาหลบซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตเม็กซิโกตั้งแต่ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองเมื่อเดือนธันวาคม 2566 เม็กซิโกอนุมัติคำขอเมื่อวันศุกร์ ก่อนที่ตำรวจเอกวาดอร์บุกเข้ามาจับกุมในวันเดียวกัน ทำเนียบประธานาธิบดีเอกวาดอร์แถลงว่า ได้จับกุมนายกลาสที่เป็นรองประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลราฟาเอล กอร์เรอาระหว่างปี 2556-2560 และนำตัวไปยังศาลแขวงในกรุงกีโต โดยมีการวางกำลังทหารรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา แถลงการณ์ยังได้ตำหนิเม็กซิโกว่าอนุมัติให้นายกลาสลี้ภัยอย่างผิดกฎหมาย การบุกจับกุมอดีตรองประธานาธิบดีเอกวาดอร์เป็นความตึงเครียดล่าสุดระหว่างเม็กซิโกที่อยู่ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาเหนือ กับเอกวาดอร์ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ หลังจากเอกวาดอร์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีให้เอกอัครราชทูตเม็กซิโกในกรุงกีโตเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา อันเนื่องจากการที่ผู้นำเม็กซิโกแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้งนองเลือดในเอกวาดอร์เมื่อปีก่อนที่มีการลอบสังหารผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี.-814.-สำนักข่าวไทย

“ไมค์ เพนซ์” จะไม่หนุน “ทรัมป์” ในการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐ

ไมค์ เพนซ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเวลา 4 ปีในช่วงที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าววานนี้ว่า เขาจะไม่สนับสนุนนายทรัมป์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้

ผู้สมัครชิง ปธน.ของรัฐบาลไต้หวันเผยนโยบายเรื่องจีน

ไทเป 9 ม.ค.- นายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันและตัวแทนพรรครัฐบาลในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 13 มกราคมนี้เผยว่า จะคงสถานภาพปัจจุบันกับจีนและเปิดรับการติดต่อกับจีนหากได้รับการเลือกตั้ง รองประธานาธิบดีไล่ วัย 64 ปี พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนางเซียว เหม่ยฉี ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีวัย 52 ปีที่กรุงไทเปในวันนี้ว่า เขาจะคงนโยบายที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อไต้หวันและประชาคมโลก เขาจะคงสถานภาพปัจจุบันและเดินหน้าทำให้สังคมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้กรอบของสาธารณรัฐจีน ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของไต้หวัน ประตูของไต้หวันจะยังคงเปิดเสมอให้แก่การติดต่อกับรัฐบาลจีน บนหลักการของความเสมอภาคและศักด์ศรี อย่างไรก็ดี แม้ว่าไต้หวันปรารถนาสันติภาพ แต่ก็ไม่สามารถมีภาพลวงตาได้ การยอมรับหลักการจีนเดียวไม่ใช่สันติภาพที่แท้จริง การไม่มีอำนาจอธิปไตยที่ชอบธรรมเป็นสันติภาพลวงดังที่เกิดขึ้นกับฮ่องกง ดังนั้นจุดยืนของไต้หวันคือการสร้างอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ รองประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวว่า จีนได้แทรกแซงการเลือกตั้งใหญ่ของไต้หวันทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีความสำคัญมากที่สุด จีนได้แสดงเจตนาออกมาชัดเจนอย่างยิ่ง โดยพยายามใช้สงครามและสันติภาพมามีอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้ง หวังสร้างรัฐบาลฝักใฝ่จีน ประชาชนชาวไต้หวันจะใช้คะแนนเสียงที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้แสดงออกถึงอำนาจประชาธิปไตยและป้องกันการแทรกแซงของจีน.-814.-สำนักข่าวไทย

ตัวเก็ง ปธน.ไต้หวันเลือกอดีตทูตประจำสหรัฐเป็นผู้สมัครคู่

ไทเป 20 พ.ย.- นายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันที่เป็นตัวเก็งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งวันที่ 13 มกราคม 2567 เลือกอดีตทูตไต้หวันประจำสหรัฐเป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี นายไล่วัย 64 ปี ตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี (DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลประกาศว่า ได้เลือกนางเซียว เหม่ยฉี วัย 52 ปี เป็นผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เธอได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ไต้หวันกับสหรัฐมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายปีมานี้ เขามั่นใจว่า เขาและนางเซียวจะประสบความสำเร็จในการรวบรวมฉันทามติของประชาชนและผนึกทุกกำลังได้ในช่วง 50 วันสุดท้ายเพื่อชนะการเลือกตั้ง และเพื่อให้ไต้หวันเดินหน้าไปอย่างมั่นคง นางเซียวดำรงตำแหน่งผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ และรักษาการในตำแหน่งจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้แทนคนใหม่ เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในสหรัฐและไต้หวัน เป็นนักการทูตที่มีสายสัมพันธ์และประสบการณ์สูง แต่ถูกจีนมองว่า เป็นพวกดื้อรั้นในการแยกตัวเป็นเอกราช และเคยถูกจีนคว่ำบาตรมาแล้ว 2 ครั้ง.-สำนักข่าวไทย

จีนเริ่มการซ้อมรบรอบๆ ไต้หวัน

จีนเริ่มการซ้อมรบที่บริเวณรอบ ๆ ไต้หวันในวันนี้ เพื่อเป็นส่งสัญญานเตือนอย่างแข็งกร้าวหลังจากที่แสดงความไม่พอใจมาแล้วในกรณีที่นายวิลเลียม ไล่ รองประธานาธิบดีไต้หวันแวะพักที่สหรัฐในระหว่างการเดินทางไปเยือนปารากวัย

จีนประกาศตอบโต้รุนแรงรอง ปธน.ไต้หวันแวะสหรัฐ

ปักกิ่ง 13 ส.ค.- จีนประกาศใช้มาตรการเด็ดขาดและรุนแรงกรณีที่รองประธานาธิบดีไต้หวันกำลังแวะเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงทางออนไลน์ในวันนี้ว่า จีนกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะดำเนินมาตรการเด็ดขาดและรุนแรงเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของประเทศ หลังจากรองประธานาธิบดีวิลเลียม ไล่ ของไต้หวัน เดินทางถึงนครนิวยอร์กของสหรัฐ เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ระหว่างเดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีซันเตียโก เปญญา ของปารากวัย และจะแวะนครซานฟรานซิสโกในช่วงขากลับ โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 7 วัน นายไล่ วัย 63 ปี เป็นตัวเก็งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันปี 2567 เขาพูดเรื่องการแยกไต้หวันเป็นเอกราชชัดเจนยิ่งกว่าประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน วัย 66 ปี ที่ไม่ยอมรับการที่จีนกล่าวอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน.-สำนักข่าวไทย

พรรครัฐบาลไต้หวันเลือก “วิลเลียม ไล่” สมัครชิงตำแหน่ง ปธน.

พรรครัฐบาลไต้หวันเสนอชื่อนายวิลเลียม ไล่ รองประธานาธิบดี ให้เป็นตัวแทนพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในปีหน้า

รอง ปธน.สหรัฐปิดท้ายเยือนเอเชียที่เขตปลอดทหารเกาหลี

ปันมุนจอม 29 ก.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐเดินทางไปยังเขตปลอดทหารหรือดีเอ็มซี (DMZ) ที่แบ่งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ปิดท้ายการตระเวนเยือนเอเชียเป็นเวลา 4 วันในวันนี้ สำนักข่าวเอพีตั้งข้อสังเกตว่า การเยือนดีเอ็มซีกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐที่ต้องการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นเรื่องการคัดค้านการรุกรานของเกาหลีเหนือ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสขึ้นไปยังจุดสูงสุดของสันเขาที่อยู่ใกล้กับหอสังเกตการณ์และกล้องรักษาความปลอดภัย ใช้กล้องส่องทางไกลมองไปตามจุดที่เป็นที่ตั้งทางทหาร ตามที่เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐและเกาหลีใต้อธิบาย จากนั้นไปเยี่ยมชมกลุ่มอาคารสีฟ้าโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐอธิบายว่า อาคารเหล่านี้ยังคงใช้เป็นสถานที่เจรจากับเกาหลีเหนือ หลายครั้งใช้การส่งข้อความกันไปมา และหลายครั้งใช้การพูดผ่านเครื่องขยายเสียง ทำให้รองประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวอย่างติดตลกว่า ไฮเทคจริง ๆ ก่อนกล่าวเห็นด้วยกับทหารสหรัฐว่า อดีตและปัจจุบันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน จากนั้นได้เดินไปยังเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารที่มีทหารยืนประจำการอยู่ทางฝั่งเกาหลีใต้ 2 นาย ส่วนทางฝั่งเกาหลีเหนือ เห็นคนสวมชุดป้องกันวัตถุอันตราย 2 คนโผล่มาจากหลังม่านบนชั้น 2 ของอาคารที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร ก่อนหายไปในเวลาต่อมา เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกเมื่อวันพุธขณะที่นางแฮร์ริสยังอยู่ระหว่างเยือนญี่ปุ่น และยิง 1 ลูกก่อนที่เธอเดินทางออกจากสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์.-สำนักข่าวไทย

รอง ปธน.สหรัฐ-ผู้นำเกาหลีใต้ ประณามเกาหลีเหนือ

วอชิงตัน 29 ก.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้ประณามเกาหลีเหนือที่ขู่เรื่องนิวเคลียร์และทดสอบอาวุธเพิ่มขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบกับประธานาธิบดียุนทันทีที่เดินทางถึงกรุงโซลในช่วงเช้าวันนี้ ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ประณามเกาหลีเหนือที่ใช้ถ้อยคำยั่วยุเรื่องนิวเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธร่อน พร้อมกับย้ำเป้าหมายร่วมกันเรื่องทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิง และได้หารือเรื่องการรับมือกับการยั่วยุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ความร่วมมือไตรภาคีกับญี่ปุ่น รองประธานาธิบดีแฮร์ริสยังได้ย้ำเรื่องสหรัฐมีพันธกิจที่จะป้องปรามรัฐอื่นที่จะคุกคามพันธมิตรในเอเชียอย่างเกาหลีใต้ ด้วยการใช้ศักยภาพด้านกลาโหมที่มีอยู่อย่างเต็มพิกัด พร้อมกับใช้โอกาสนี้หารือหนทางแก้ไขความกังวลของเกาหลีใต้ที่เกรงว่า ผู้ผลิตยานยนต์ของเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐผ่านร่างกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อที่มีการแก้ไขระเบียบการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า ด้านสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานอ้างรองโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบหารือกับประธานาธิบดียุนที่ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นเวลา 85 นาที และเห็นพ้องกันเรื่องกำหนดการที่ประธานาธิบดียุนจะไปเยือนสหรัฐในปี 2566 เพื่อฉลองความเป็นพันธมิตรครบ 70 ปี ส่วนเรื่องที่เกิดประเด็นขึ้นหลังจากประธานาธิบดียุนพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐที่นครนิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ก่อน รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเผยว่า สหรัฐไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย โฆษกไม่ได้ระบุในรายละเอียด แต่ยอนฮับชี้ว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้นำเกาหลีใต้หลุดใช้คำหยาบโดยไม่รู้ตัวว่าไมโครโฟนเปิดอยู่ และมีข่าวในตอนแรกว่าเขาพูดถึงประธานาธิบดีและรัฐสภาสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

รอง ปธน. สหรัฐจะไปเขตปลอดทหารเกาหลี

โตเกียว 27 ก.ย.- เจ้าหน้าที่สหรัฐและเกาหลีใต้เผยว่า รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐจะเดินทางไปยังเขตปลอดทหารหรือดีเอ็มซี (DMZ) ที่แบ่งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อแสดงออกถึงพันธกรณีที่มีต่อความมั่นคงของเกาหลีใต้ ข่าวการเยือนของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้รับการยืนยันต่อสาธารณะโดยนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซู ของเกาหลีใต้ระหว่างที่ทั้งคู่พบกันที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมรัฐพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และต่อมาได้รับการยืนยันโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนาม เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวว่า หลังจากมีความตกลงสงบศึกเกาหลีเมื่อเกือบ 70 ปีก่อน การเยือนของนางแฮร์ริสจะตอกย้ำความแข็งแกร่งของความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐท่ามกลางภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ รองประธานาธิบดีสหรัฐจะเยี่ยมชมดีเอ็มซี พบปะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รับฟังการบรรยายสรุปจากผู้บัญชาการสหรัฐ ขอบคุณความเสียสละร่วมกันของทหารอเมริกันและเกาหลีใต้ และย้ำถึงพันธกรณีที่แข็งแกร่งของสหรัฐต่อความมั่นคงของเกาหลีใต้ การประกาศข่าวการเยือนดีเอ็มซีของนางแฮร์ริสมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยใกล้ลงทะเลฝั่งตะวันออกเมื่อวันอาทิตย์ และมีขึ้นท่ามกลางกระแสวิตกเรื่องเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประสบความล้มเหลวในการสร้างสัมพันธ์กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่ผ่านมาแขกต่างประเทศหลายคนเคยเดินทางไปยังดีเอ็มซีมาแล้ว ประธานาธิบดีไบเดน เคยไปเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในปี 2556 ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ไปดีเอ็มซีเพื่อพบผู้นำเกาหลีเหนือในเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นการพบกันครั้งที่ 3.-สำนักข่าวไทย

ชาวอาร์เจนตินาชุมนุมสนับสนุนรองประธานาธิบดี

ชาวอาร์เจนตินาหลายพันคนเดินขบวนไปตามท้องถนนในกรุงบัวโนไอเรส เพื่อสนับสนุนรองประธานาธิบดีคริสตินา เฟอร์นันเดซ เดอ เคิร์ชเนอร์

รอง ปธน.อาร์เจนตินาปลอดภัยหลังถูกเล็งปืนใส่

บัวโนสไอเรส 2 ก.ย.- รองประธานาธิบดีคริสตินา เฟอร์นันเดซ เดอ เคิร์ชเนอร์ ของอาร์เจนตินา ถูกคนร้ายเล็งปืนใส่ ขณะที่เธอกำลังอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่ไม่ได้รับอันตรายและไม่มีการยิงเกิดขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นที่หน้าบ้านของเธอ ขณะที่ฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกันในช่วงหลายวันมานี้เพื่อให้กำลังใจเธอที่กำลังถูกไต่สวนในคดีทุจริต นายแซร์จิโอ มาสซา รัฐมนตรีเศรษฐกิจทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า เป็นความพยายามลอบสังหาร ด้านโฆษกตำรวจเผยว่า คนร้ายเป็นชาวบราซิล ถูกจับกุมได้ใกล้บ้านพักของนางเฟอร์นันเดซ เดอ  เคิร์ชเนอร์ และพบอาวุธใกล้ที่เกิดเหตุ ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์ไม่เห็นว่ามีการยิงเกิดขึ้น หลังจากคนร้ายเล็งปืนใส่เธอที่กำลังอยู่ท่ามกลางฝูงชน ข่าวระบุว่า เขาดูเหมือนเป็นชายวัยกลางคน ขณะที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการว่า คนร้ายได้ขึ้นลำปืนแล้ว แกนนำรัฐบาลและแกนนำฝ่ายค้านอาร์เจนตินา รวมถึงนักการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านในลาตินอเมริกาพากันให้กำลังใจรองประธานาธิบดีหญิงอาร์เจนตินา วัย 69 ปี ผู้เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 2 สมัยตั้งแต่ปี 2550-2558 ขณะที่นักการเมืองบางคนมองว่า เป็นเพียงการกระทำของคนไม่ปกติเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 5
...