กักตัว 30 คนหลังพบติดเชื้อร่วมงาน

รัฐสภา 22 เม.ย.-ผลตรวจส.ว.-จนท.รัฐสภา 220 คน เจอเชื้อ 1 คนร่วมงาน “Senate Food ส.ว.มาแล้ว” สั่งกักตัวหมู่ 30 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับบุคลากรส่วนต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับเจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ได้รับการยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) รวมจำนวน 220 คน ล่าสุดผลการตรวจหาเชื้อออกมาแล้ว พบว่า มี 1 ใน 220 คน ผลเป็นบวก ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาด เพศชาย ฝั่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

ทั้งนี้ ก่อนทราบผลตรวจ ในช่วงเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) พนักงานรายดังกล่าว ยังคงมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และร่วมกิจกรรมโครงการจิตอาสาเพื่อสังคมของวุฒิสภา ขับรถจักรยานยนต์ส่งอาหารในโครงการ “Senate Food ส.ว.มาแล้ว” ซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภา และบุคลากรสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเข้าร่วมกิจกรรม


นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภาในฐานะคณะกรรมการดำเนินงาน ยอมรับว่า เพิ่งทราบว่า มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ร่วมกิจกรรมดังกล่าว และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาสั่งให้สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 6 คน รวมถึงข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 30 คนกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อสังเกตอาการตนเอง และให้สังคมเกิดความสบายใจ

“ยืนยันว่าแม้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะเพิ่งรับทราบผลว่าติดเชื้อ COVID-19 หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมไปส่งอาหารในชุมชนแล้ว แต่ไม่ได้พบปะกับประชาชนโดยตรง เนื่องจากมีจุดรับส่งอาหารและสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา จึงไม่น่าเป็นกังวล ส่วน กิจกรรม “Senate Food ส.ว.มาแล้ว” จะดำเนินการต่อ แต่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการ โดยให้สมาชิกวุฒิสภในพื้นที่ต่างจังหวัดดำเนินการภายใต้หลักการโครงการเดียวกัน ทั้งการประกอบอาหารช่วยเหลือประชาชน การจัดหาสิ่งของอุปกรณ์จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในจังหวัดต่าง ๆ โดยจะแบ่งงบประมาณในโครงการที่ ส.ว.ช่วยกันระดมทุนไปสนับสนุนให้” นายวัลลภ กล่าว

นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งผู้ที่ติด COVID-19 เพิ่งรับทราบผลหลังจากร่วมกิจกรรม ขณะนี้ได้ประสานผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งสมาชิกวุฒิสภา 6 คน และเจ้าหน้าที่วุฒิสภาอีก 30 คนกักตัว 14 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งหนึ่ง โดยจะให้สื่อมวลชนที่ไปทำข่าวกิจกรรมตรวจหาเชื้อด้วย


“นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภามีนโยบายให้ส.ว.ทำงานที่บ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานที่รัฐสภาน้อย อีกทั้งมีมาตรการคุมเข้ม ดูแลความปลอดภัยการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่” เลขาธิการวุฒิสภา กล่าว

สำหรับสมาชิกวุฒิสภา 6 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย อาทิ นายพีระศักดิ์ พอจิต ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงาน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ว่าที่ร.ต.วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี พล.ต.โอสถ ภาวิไล เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง