วอชิงตัน 22 เม.ย. – กระทรวงการคลังสหรัฐขึ้นบัญชีดำธุรกิจค้าไม้และไข่มุกของรัฐบาลเมียนมาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ธุรกิจเหล่านี้ถูกนำมาใช้หารายได้ให้กับรัฐบาลทหาร
กระทรวงการคลังสหรัฐใช้มาตรการลงโทษเมียนมา ทิมเบอร์ เอนเตอร์ไพรซ์ และ เมียนมา เพิร์ล เอนเตอร์ไพรซ์ ซึ่งกำกับดูแลการส่งออกไม้และไข่มุกจากเมียนมา มาตรการลงโทษนี้มีเป้าหมายในการจำกัดทั้งสองบริษัทในการเข้าถึงระบบการค้าและการเงินของโลกด้วยการห้ามบุคคลและบริษัทของสหรัฐ รวมถึงธนาคารในการทำธุรกิจกับบุคคลและบริษัทที่เกี่ยวข้อง การลงโทษดังกล่าวยังรวมถึงการอายัดทรัพย์สินของทั้งสองบริษัทที่อยู่ในสหรัฐด้วย มาตรการลงโทษครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลสหรัฐกำลังหาทางกดดันกองทัพเมียนมาเพิ่มเติมหลังจากที่ก่อรัฐประหารและยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ หลังการยึดอำนาจประชาชนรวมตัวประท้วงเป็นรายวันและกองทัพต้องใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 738 ราย และถูกจับกุมอีก 3,300 ราย ในฐานะนักโทษการเมือง นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การลงโทษของสหรัฐล่าสุดนี้เป็นการย้ำถึงข้อความของสหรัฐที่ส่งไปยังกองทัพเมียนมาว่า สหรัฐจะยังคงตั้งเป้าจัดการกับช่องทางทางการเงินและส่งเสริมให้มีการรับผิดชอบในการก่อรัฐประหารและใช้ความรุนแรงกับประชาชน เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐจะยังคงสนับสนุนประชาชนเมียนมาและความพยายามในการต่อต้านรัฐประหาร พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้กองทัพหยุดใช้ความรุนแรง ปล่อยผู้ที่ถูกจับกุมไปอย่างไม่เป็นธรรมและคืนประชาธิปไตยให้กับเมียนมา.-สำนักข่าวไทย