วอชิงตัน 21 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐภายในอาคารรัฐสภาพร้อมประกาศนโยบายแรก กวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้คำมั่นจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
นายทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในวัย 78 ปี มีนายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฎีกาสหรัฐเป็นผู้ประกอบพิธี ภายในอาคารรัฐสภาในเวลาเที่ยงของวันจันทร์ ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ดีซี ตรงกับเที่ยงคืนวันเดียวกันตามเวลาในไทย ทรัมป์ให้คำสาบานตนเพื่อ รักษา ปกป้อง และป้องกัน รัฐธรรมนูญสหรัฐ เช่นเดียวกับ นายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี ก็สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยนายเบรตต์ คาวานอห์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นผู้ดำเนินการ
จากนั้น นายทรัมป์ แถลงครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่งว่า เขาจะประกาศให้การอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทั้งหมดจะถูกระงับทันที และจะเริ่มกระบวนการส่งตัวคนต่างด้าวที่ก่ออาชญากรรมหลายล้านคนกลับไปยังสถานที่ที่พวกเขาจากมา ประกาศให้แก๊งค้ายาเสพติดเป็นกลุ่มก่อการร้าย และจะส่งทหารไปยังพรมแดนสหรัฐกับเม็กซิโก เพื่อต่อต้านการรุกรานประเทศที่ก่อให้เกิดหายนะ นายทรัมป์ตั้งใจจะลงนามคำสั่งทางการบริหารหลายชุดในช่วงแรก ๆ ของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี รวมถึงกว่า 10 รายการที่มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยตามแนวพรมแดนและการอพยพเข้าเมือง ซึ่งถือนโยบายสำคัญสูงสุดของเขา
นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังประกาศว่า ยุคทองผ่องใสของอเมริกาจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากนี้ อเมริกาจะกลับมาเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ ร่ำรวย แข็งแกร่ง และยืนหนึ่งบนเวทีโลกอีกครั้ง จากการผลิตยานยนต์และขุดเจาะน้ำมันมหาศาล รวมถึงจะยกเลิกนโยบายเรื่องความหลากหลายต่างๆ นานาของรัฐบาล ย้ำหลังจากนี้กระบวนรับคนเข้าทำงานจะมุ่งเน้นที่ความรู้ความสามารถ ของเพศชายและหญิงเท่านั้น
พิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทรัมป์ มีมหาเศรษฐีในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนักการเมืองชื่อดังเข้าร่วมหลายคน ประกอบด้วยอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา, เจฟฟ์ เบโซส ซีอีโอแอมะซอน, มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้บริหารเมตา เจ้าของเฟซบุ็ก และทิม คุ๊ก ผู้บริหารแอปเปิล นอกจากนี้ ยังมีอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ อีกหลายคน ทั้ง บิล คลินตัน ที่มาพร้อมกับ ฮิลลารี ภริยา, จอร์จ ดับเบิลยู บุช พร้อมด้วย ลอรา บุช และ บารัค โอบามา
ขณะที่ นายโจ ไบเดน ที่ตอนนี้กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มารีนวัน ไปยังฐานทัพอากาศแอนดรูว์ เป็นการอำลาตำแหน่งผู้นำประเทศ ท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นยะเยือกในกรุงวอชิงตัน โดยมีนายทรัมป์ ที่เพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เดินมาส่งนายไบเดน และนางจิลล์ ภรรยา ถึงเฮลิคอปเตอร์ เป็นการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างราบรื่น
ในส่วนของกลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ฝ่าสภาพอากาศหนาวจัดเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวานนี้ หลายคนบอกว่ามีความสุขที่ได้มาอยู่ที่นี่ รู้สึกตื่นเต้นมากที่ช่วงเวลานี้มาถึง และแทบรอไม่ไหวที่จะให้ประธานาธิบดีเข้าพิธีสาบานตน บางคน บอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจอเมริกาย่ำแย่จริง ๆ และรับมือไม่ไหวแล้ว ดีใจและมีความสุขมากที่นายทรัมป์ชนะเลือกตั้ง นั่นคือเหตุผลที่มาอยู่ที่นี่วันนี้แม้ว่าสภาพอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิติดลบ แต่บรรยากาศก็ไม่ต่างจากงานรื่นเริง ผู้เข้าร่วมงานบางคนเดินทางถึงตั้งแต่เช้า เพื่อให้แน่ใจว่า จะได้พบกับนายทรัมป์ หลังจากขบวนพาเหรดตามประเพณี ที่กองทหาร วงโยธวาทิตระดับโรงเรียน รถแห่ และประชาชนกลุ่มต่าง ๆ จะเคลื่อนขบวนจากถนนเพนซิลเวเนียไปยังทำเนียบขาวถูกยกเลิก โดยย้ายเข้ามาจัดที่ แคปิตัล วัน อารีนา (Capital One Arena) ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มที่จุคนได้ 20,000 คนแทน.-815.-สำนักข่าวไทย