นิวเดลี 9 เม.ย. – อินเดียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน ในขณะที่กำลังควบคุมการระบาดระลอกสอง และรัฐต่าง ๆ ประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน
อินเดีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 131,968 คน และผู้เสียชีวิต 780 คน ทำสถิติยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมปีก่อน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 13.06 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 167,600 คน ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมสูงเป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐและบราซิล และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมขยับเข้าใกล้บราซิลที่มีราว 13.28 ล้านคนแล้ว
หลายรัฐของอินเดียเริ่มขยายมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้แรงงานข้ามชาติต่างพากันขึ้นรถไฟจนแน่นขนัดเพื่อเดินทางกลับบ้านจากเมืองใหญ่ เช่น นครมุมไบ และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดจากเมืองใหญ่ไปสู่เมืองเล็ก ขณะที่รัฐบาลอินเดียโทษว่าการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นจากประชาชนที่รวมตัวกันและไม่สวมหน้ากากอนามัยในช่วงที่ภาคธุรกิจกลับมาเปิดบริการตั้งแต่ในช่วงกลางปีที่แล้ว
ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเมื่อปีก่อน ทำให้เกิดข้อเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มประชาชนอายุน้อยลง อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยระบุว่าทางการจะยังคงเน้นฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะนี้อินเดียเดินหน้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียยังปฏิเสธว่าจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่สอง แต่นายกรัฐมนตรีโมดีระบุว่า คำสั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานยามวิกาล หรือเคอร์ฟิว เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ประชาชนระมัดระวังตัว.-สำนักข่าวไทย