“ทนายพัช” จ่อสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์ อุบประเด็นโต้ปกปิดหลักฐาน

20 พ.ย. – “ทนายพัช” จ่อสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์ อุบประเด็นโต้ปกปิดหลักฐาน ชี้ “แอม” เครียดหลังถูกพิพากษาประหาร ห่วงอดีตสามี ลั่นความยุติธรรมยังไม่เกิด


เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีแอม ไซยาไนด์ วางยาพิษ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย โดยพิพากษาตัดสินประหารชีวิต นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ และพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรืออดีตสามีแอม ไซยาไนด์ 1 ปี 4 เดือน กับพิพากษาจำคุก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือทนายพัช 2 ปี

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรืออดีตสามีแอม ไซยาไนด์ และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือทนายพัช 2 ปี ด้วยหลักทรัพย์คนละ 100,000 บาท


เวลา 17.38 น. พ.ต.ท.วิฑูรย์ ได้รับการปล่อยตัวตามคำสั่งของศาลและเดินทางออกมาจากอาคารศาลอาญา ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะเข้าไปสอบถามและพูดคุย ปรากฏว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ ได้แต่มองหน้าผู้สื่อข่าวและเดินปรี่ไปขึ้นรถออกไปจากศาลทันที โดยไม่ตอบคำถามใด ๆ ของผู้สื่อข่าว

ต่อมาเวลา 18.00 น. ด้าน น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช ลงมาจากอาคารศาลอาญา พร้อมด้วยนายไชยา คุ้มอ่ำ ทนายความของจำเลยทั้งสามคน โดยได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังจากได้รับการประกันตัว

นายไชยา กล่าวว่า ในส่วนคำพิพากษาในวันนี้นั้นถือเป็นดุลยพินิจของศาล เราต้องเคารพและไม่ก้าวล่วงต่อศาล เมื่อศาลใช้ดุลพินิจแบบไหนเราต้องมีหน้าที่ในการต่อสู้ในชั้นอุทรณ์ต่อไป แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเคารพต่อศาลตนไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ปรากฏประจักษ์พยานที่เห็นชัดจากฝั่งโจทก์ ที่นำมาประกอบในคำพิพากษา โดยพยานหลักฐานที่โจทก์กล่าวอ้างมีเพียงแค่แต่ไม่มีพยานที่ฝั่งจำเลยกล่าวอ้างเลย


ขณะที่ทนายพัช กล่าวว่า พยานฝั่งจำเลย ทั้งคนติดตั้งกล้องวงจรปิดและความเห็นของแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ โดยในคำพิพากษาไม่มีการกล่าวถึงพยานส่วนนี้ของฝั่งจำเลยแม้แต่น้อย ทำให้ตนรู้สึกติดใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความเห็นในส่วนของหมอพรทิพย์ที่ไม่มีอยู่ในคำพิพากษาได้อย่างไร

นายไชยา กล่าวอีกว่า ตนมองว่าทั้งพยานและคำให้การของฝั่งจำเลยนั้นได้นำเสนอแก่ศาลในชั้นพิจารณาเรียบร้อยแล้ว แต่ตนมีความเห็นว่า ศาลไม่ยกประเด็นฝั่งจำเลยมาพิจารณา โดยในชั้นอุทธรณ์นั้น จะมีหลายประเด็นที่ต้องต่อสู้ในส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยของศาลชั้นต้น โดยจะเน้นพยานหลักฐานฝั่งตนเองที่เคยนำสืบไปแล้วมาต่อสู้ในชั้นอุทรณ์ ตนคงไม่นำเสนอพยานหลักฐานใหม่ เช่น กรณีที่มีการปลอมปนยาในรถ ซึ่งฝั่งของตนมีการนำสืบว่าพบภาพวงจรปิดที่ขยายเห็นภาพภายในรถ แต่ในประเด็นดังกล่าวฝั่งโจทก์ไม่ได้นำเสนอในชั้นศาลตามที่กล่าวอ้างว่ามีการปลอมปนยาภายในรถ ตนเชื่อว่าฝ่ายโจทก์ไม่ได้ยกประเด็นกล้องวงจรปิดมานำสืบ เพราะจะทำให้ศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์วางยาพิษ

นายไชยยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การที่พบสารพิษไซยาไนด์ในรถคันเกิดเหตุ พวกตนมองว่า หากพิษไซยาไนด์ฟุ้งกระจายในรถจริง ผู้ต้องหาและลูกของผู้ต้องหาที่เคยใช้รถและภายในห้องโดยสารรถกับไม่มีใครได้รับอันตราย รวมทั้งผู้ที่มาตรวจรถต้องได้รับอันตรายจากสารไซยาไนด์แล้ว

น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช กล่าวต่อว่า ไม่พบสารไซยาไนด์ในตัวของแอม รวมทั้งเสื้อผ้าหรือที่เล็บและเสื้อผ้าของผู้ตายก็ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น ส่วนประเด็นที่พบว่ามีถุงดำหรือถุงมือปรากฎในข่าวนั้นก็ไม่พบดีเอ็นเอของแอมเช่นเดียวกัน เมื่อถามว่าประเด็นที่มีการพบขวดไซยาไนด์ภายในรถ ได้อย่างไร ทนายพัช กล่าวว่า ทางตำรวจมีการสั่งซื้อไซยาไนด์ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2566 แล้วนำมาทดสอบในรถเพื่อประกอบในสำนวนคดี

เมื่อถามว่าภายหลังศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต แอมมีความรู้สึกอย่างไร ด้านทนายไชยยา กล่าวว่า แอมบอกเพียงว่า ไม่เห็นความยุติธรรมและแอมได้ทำใจไว้แล้วว่าผลพิพากษาจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ ด้วยความเป็นผู้หญิง ไม่มีทางที่ลูกความของตนจะไม่มีความเครียด รวมทั้งแอมมีความเป็นห่วงและคิดถึง พ.ต.ท.วิฑูรย์ และทนายพัชมากกว่าตัวเอง โดยระหว่างพูดคุยหลังคำพิพากษา แอมตาแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด

ด้านทนายพัช กล่าวเสริมว่า แอมมีคำพูดถึงผลของคดีแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าจะละเมิดอำนาจของศาล ส่วนการต่อสู้ของตนและพ.ต.ท.วิฑูรย์ ในชั้นอุทธรณ์ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นการช่วยปกปิดพยานหลักฐาน และทำให้ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ตนไม่ขอเปิดเผยข้อมูลเพราะจะมีผลต่อการต่อสู้ของรูปคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการสังเกตจากสีหน้าของทนายพัช ดูไม่มีท่าทีกังวลต่อผลคำพิพากษาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย