สธ. 3 ก.ค. – กรมควบคุมโรค เผยแนวโน้มผู้เสียชีวิตโควิด พบส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ แนะรักษามาตรการส่วนบุคคลเคร่งครัด
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 รายสัปดาห์ ยังคงพบรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ยังไม่เกินความสามารถของระบบการรักษาพยาบาล ห่วงกลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุป่วยหนักเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน แนะทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหมู่มาก หรือแออัดควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และล้างมือบ่อย ๆ หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 โดยรวมพบผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล สะสมตั้งแต่ต้นปี 31,205 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 172 ราย ในช่วงระหว่างวันที่ 23 – 29 มิถุนายน 2567 พบผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 3,256 ราย เฉลี่ยวันละ 465 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 709 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 336 ราย และเสียชีวิต 16 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จึงขอเน้นย้ำให้กลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดเมื่อเข้าไปในสถานที่เสี่ยง และเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด- 19 โดยยึดหลัก D-M-H คือ D = Distancing เว้นระยะห่าง M = Mask Wearing สวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดการฟุ้งกระจายของละอองฝอย H = Hand Washing หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะมีโอกาสที่เราจะนำมือมาสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัวได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ และแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น หากมีอาการสงสัยว่าป่วยควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK หากผลพบติดเชื้อควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม และไม่ควรอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง 608 หากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการติดตามโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีลักษณะการระบาดเป็นฤดูกาลคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ หรือสัมพันธ์กับช่วงที่มีกิจกรรมการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น การเปิดเรียน การเข้าค่าย การฝึกทหารเกณฑ์ ซึ่งคาดว่าจำนวนการป่วยรายสัปดาห์จากโควิดจะยังเพิ่มขึ้นและน่าจะสูงสุดในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยปัจจุบันอัตราป่วยตายของโรคนี้ในภาพรวมเท่ากับร้อยละ 0.04 ถือว่าน้อยลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราป่วยตายในช่วงการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่มีอัตราป่วยตายสูงถึงร้อยละ 2.16 (ข้อมูล มิ.ย. 2564) สะท้อนว่าความรุนแรงของโรคโควิด-19 ลดลง เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันในระดับประชากร ร่วมกับสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดไม่รุนแรง นอกจากนี้อัตราป่วยตายเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยในโรงพยาบาลเท่ากับร้อยละ 0.7 ซึ่งลดลง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2566 สะท้อนให้เห็นว่าภาระโรคในปัจจุบันยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาเชิงระบบการรักษาพยาบาล โรงพยาบาลทั่วประเทศยังมีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยได้ดี
ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว เป็นช่วงฤดูกาลระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่ จึงขอแนะนำประชาชนที่มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK หากพบผลติดเชื้อควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แยกตัวไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่นและรีบพบแพทย์ โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 เนื่องจากหากกลุ่มดังกล่าวติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้.-411-สำนักข่าวไทย