กรุงเทพ 2ม.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยความคืบหน้าแก้ปัญหาโรฮิงญา “ซูจี” ขอเวลาแก้ปัญหาในเมียนมา ส่วนไทยพร้อมเสนอเงินช่วยเหลือและพัฒนาสร้างงานสร้างอาชีพ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์แก้ปัญหาผู้ลี้ภัยแบบไม่ปกติโดยเฉพาะการอพยพของชาวโรฮิงญา ว่า ประเทศไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลั่งไหลของโรฮิงญา ในฐานะประเทศทางผ่าน ซึ่งต้นทางมาจากอ่าวเบงกอล ใกล้กับรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา แต่เมื่อผ่านมาทางไทย พบกลุ่มโรฮิงญาบางกลุ่มกลายเป็นเหยื่อของกลุ่มค้ามนุษย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากที่ไทยได้จัดการประชุมเกี่ยวกับความมือในการแก้ปัญหากลุ่มผู้ลี้ภัยในช่วงเดือนพฤษภาคม และธันวาคม ปี 2558 ก็พบว่าการหลั่งไหลของชาวโรฮิงญาจากประเทศต้นทางลดน้อยลงตามลำดับ และล่าสุดพบว่าไม่มีอีกเลยในประเทศไทย เนื่องจากมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศต้นทางได้รับทราบว่ามีความจริงจังในการแก้ปัญหาภายในประเทศอยู่
นายดอน กล่าวว่า นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ได้กล่าวในประชุมสรุปสถานการณ์เกี่ยวกับพัฒนาการในรัฐยะไข่ ตามคำเชิญของนางออง ซาน ซูจี ที่จัดขึ้นเป็นวาระพิเศษให้กับประเทศสมาชิกชาติอาเซียน ที่กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ว่าขอเวลาในการแก้ปัญหาชาวโรฮิงญา ซึ่งการประชุมครั้งนี้เหมือนเป็นการติดตามความคืบหน้าของเมียนมามากกว่า
“อาเซียนไม่ได้มีความกังวลมากนัก เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามหากมีความจริงใจในการแก้ปัญหาทุกฝ่ายก็ยอมรับได้ โดยเฉพาะไทยเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องของสถานการณ์ภายในประเทศที่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอก่อน แต่ขอให้รับทราบว่าอย่านำเรื่องนี้ไปพัวพันกับเรื่องศาสนา เพราะจะทำให้การแก้ปัญหาแก้ยากมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายของไทยต้องการให้เกิดความสงบสุขในประเทศ ไม่มีการใช้กำลัง จะได้ไม่มีการหลั่งไหลของชาวโรฮิงญาออกมานอกประเทศอีก” นายดอน กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยยังได้ให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนา เช่น การสาธารณสุข การสร้างโรงสีข้าวในพื้นที่เพื่อเพิ่มงานเพิ่มอาชีพ และให้การพัฒนาพื้นที่ทำกินในรัฐยะไข่แบบยั่งยืน เพื่อให้คนในท้องถิ่นมีชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งยังได้เสนอความช่วยเหลือในรูปแบบของเงินช่วยเหลือ ที่เป็นงบของกระทรวงการต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย