กรุงเทพฯ 4 ม.ค. – นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้ตรวจราชการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนกับรถกระบะที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 25 ราย นายอาคม เรื่องนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะการมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาในประเด็นที่เคยมีข้อมูลทางด้านวิชาการระบุว่ารถตู้ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะไปดำเนินการจัดทำแผน เพื่อพิจารณาประเภทรถที่เหมาะสมที่จะเข้ามาให้บริการทดแทน
ส่วนการแก้ปัญหาระยะสั้น ที่ผ่านมาคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเข้ามากำกับดูแลให้รถตู้โดยสารทั้งหมดเข้าไปจอดในพื้นที่สถานีนำร่องไปแล้ว สำหรับรถตู้ที่มีต้นทางออกจากกรุงเทพมหานครได้รับการจัดระเบียบเข้าไปจอดที่สถานีหมอชิต 2 , สายใต้ใหม่ปิ่นเกล้า และเอกมัยปลายปีที่ผ่านมา และจะขยายผลให้ครอบคลุมรถตู้ที่วิ่งให้บริการทั่วประเทศในปี 2560 โดยยืนยันว่าการจัดระเบียบให้รถตู้ไปออกรถที่สถานีรถโดยสารจะทำให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบรถแต่ละคันว่ามีความพร้อม บริการแค่ไหนทั้งสภาพตัวรถและผู้ขับขี่
นายจิรุตม์ กล่าวว่า ตามแนวทางของ คสช.สำหรับรถตู้โดยสารที่วิ่งในต่างจังหวัด หากไม่สามารถนำเข้าจอดที่สถานีขนส่งแต่ละจังหวัดได้ เนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น สถานีรถโดยสารมีพื้นที่คับแคบไม่เพียงพอ ในส่วนนี้สามารถจัดระเบียบหาจุดจอดที่มีความเหมาะสม เพื่อนำรถไปจอดรวมกัน เพื่อง่ายต่อการเข้าตรวจสภาพความพร้อมด้วย เมื่อนำประเด็นดังกล่าวมารวมกับการที่จะบังคับใช้กฎหมายให้รถตู้โดยสารทุกคันติดตั้งจีพีเอสให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ หรือก่อนเทศกาลสงกรานต์ก็จะช่วยให้มาตรฐานความปลอดภัยของรถตู้โดยสารเหล่านี้มีมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับประเด็นรถตู้ที่ไม่เหมาะสมนำมาใช้เป็นรถโดยสารสาธารณะแนวทางการดำเนินงานของภาครัฐในส่วนของรถใหม่ที่จะทำการจดทะเบียนนั้น กรมการขนส่งทางบกได้ชะลอการจดทะเบียนไปแล้ว โดยบังคับให้ผู้ขอจดทะเบียนต้องแจ้งการมีพื้นที่จอดที่เหมาะสมและลักษณะการใช้งาน เช่น ภายในครอบครัวมีสมาชิกกี่คน และมีความจำเป็นต้องใช้รถตู้โดยสารแค่ไหน ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นการป้องปรามไม่ให้มีการ นำรถมาจดทะเบียนแล้วนำรถตู้ดังกล่าวออกมาวิ่งบริการเป็นรถตู้ป้ายดำ
ส่วนรถที่จดทะเบียนแล้ววิ่งให้บริการในระบบ ปัจจุบันมีกว่า 10,000 คัน กรมการขนส่งทางบกมีแนวทางที่จะไม่ต่อทะเบียนให้ในอนาคตหลังครบกำหนดการจดทะเบียนและใช้งานครบ10 ปี โดยในอดีตที่ผ่านมาการจัดระเบียบนำรถตู้เข้ามาสู่ระบบมีการจดทะเบียนจำนวนมากในปี 2553 ดังนั้น รถเหล่านี้จะไม่ได้รับการต่อทะเบียนหลังปี 2562 เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย