รัฐสภา 3 ต.ค.- อธิบดีกรมขนส่งฯ ขนคณะแจง กมธ.คมนาคม พบถังก๊าซที่ต่อเติมท่อรั่ว ต้นตอบัสมรณะ ผลสอบยางไม่แตก แต่เพลาหักครูดถนน ยอมรับมีอีกคันติดตั้งเกินแบบเดียวกัน ยันหากสอบสวนเจอตัวการ เอาผิดแน่ตามกฎหมาย
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการคมนาคม ที่มีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน ว่า เมื่อรับทราบตนได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ ภายหลังเหตุฉุกเฉินสงบลง และได้ร่วมลงพื้นที่ตรวสอบสภาพรถ ซึ่งได้มอบหมายให้นายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ ชี้แจงสรุปผลการตรวจสอบสภาพรถและการวิเคราะห์การเกิดอุบัติเหตุเบื้องต้น ว่า รถคันเกิดเหตุเป็นรถโดยสารชั้นเดียว ยางล้อหน้าทั้งซ้ายและขวาไม่พบร่องรอยการระเบิด ประตูฉุกเฉินด้านหลังขวาสามารถใช้งานได้ มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยครบ ได้แก่ ประตูฉุกเฉิน ทางออกฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างที่กรมการขนส่งทางบกจะร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อวิเคราะห์สรุปหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้
ด้านนายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง โฆษกคณะกรรมาธิการการคมนาคม ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในรายละเอียดของกรมขนส่งฯ ที่ให้มา มีการตรวจสภาพรถไปเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 และผ่านการตรวจระบบ CNG โดยบริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 แปลว่ามีการตรวจสอบสภาพถังก๊าซ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบสภาพรถ จึงไม่แน่ใจว่าถังก๊าซอีก 5 ถัง ที่ติดตั้งขึ้นมาพิเศษเพิ่มเติม ติดตั้งหลังจากมีการตรวจสภาพรถ หรือมีการบกพร่องในการตรวจสภาพรถหรือไม่ และเป็นการตรวจรถทิพย์หรือไม่
นายจิรุตม์ ระบุว่า จากการตรวจสอบของกรมการขนส่งทางบก รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันตรงกันว่า ถังก๊าซที่ติดตั้งนั้นเกินกว่าที่ได้กำหนดไว้ในการจดทะเบียนรถที่ต้องไม่เกิน 6 ถัง แต่รถคันนี้มีทั้งหมด 11 ถัง ซึ่งระเบียบกรมการขนส่งทางบก มีจุดตรวจสอบหลายจุด จุดแรก คือ วิศวกรผู้รับรองถังก๊าซ เพื่อดูขนาด อายุ จุดเชื่อมต่อว่าถูกต้องหรือไม่ จุดที่สอง คือ ผู้ประกอบการที่ต้องมีธรรมาภิบาล จุดที่สาม คือ ต้องมี Transport Safety Manager หรือ ผู้จัดการด้านความปลอดภัยที่ฝึกอบรมและขึ้นทะเบียนไว้ ในกรณีนี้ได้เพิกถอนใบรับรองไปเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหน้าที่ของกรมขนส่งทางบกจะเป็นคนตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย ส่วนถังก๊าซที่เกินมาหลุดมาจากจุดไหน ต้องรอการสอบสวนอีกครั้งและจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ยังต้องรอสำนวนจากการสอบสวนอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายจิรุตม์ ยังยืนยันว่า มีการติดถังก๊าซเกินกว่าที่จดทะเบียนไว้ 5 ถัง และไม่มีการตรวจรถทิพย์ แต่ตอนยืนยันได้แค่ในระบบ ยืนยันตัวบุคคลไม่ได้ แต่ก็เคยเจอลักษณะเช่นนี้และลงโทษด้วยการไล่ออก ยืนยันว่า การตรวจต้องเห็นรถ หากใครไม่ปฏิบัติตามก็ต้องมีโทษทางกฎหมาย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการ ดังนี้
- สั่งพักใช้ใบอนุญาตผู้ประกอบการขนส่ง ของนางสาวปาณิสรา ชินบุตร
- สั่งพักใช้ใบอนุญาตผู้ขับรถ ของนายสมาน จันทร์พุฒ
- สั่งยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรการจัดการด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง (TSM) ของนางกนิษฐา ชินบุตร ซึ่งเป็นญาติของผู้ประกอบการ
- สั่งระงับสถานติดตั้งตรวจและทดสอบรถที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ของบริษัท ออลเทอร์เนทีฟ รีซอส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
ส่วนประเด็นรถที่มีการใช้งานมากกว่า 54 ปีนั้น นายชีพ ชี้แจงว่า ในระยะเวลาการจดทะเบียนก็มีการจดทะเบียนเป็นรถประเภทอื่น ๆ แต่ที่รถยังคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ หากมีส่วนที่ผุกร่อน เจ้าของรถก็จะนำไปเปลี่ยนแปลง ที่อู่ต่อรถอะไรพังก็เปลี่ยน และสามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรถได้ แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ คือ โครงแคสซีของรถ ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ แต่หลังจากมีการปรับเปลี่ยนเจ้าของรถ ก็ต้องให้วิศวกรเครื่องกลรับรองความมั่นคงแข็งแรง เพื่อนำมาตรวจสภาพ และจดทะเบียน
ส่วนประเด็นการกำหนดอายุของรถโดยสารประเภทนี้ นายจิรุตม์ ระบุว่า ได้พูดคุยในเรื่องนี้ว่าต้องมาทบทวน เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดอายุของรถไว้ แต่ขึ้นอยู่กับมาตรฐาน การตรวจสภาพ สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทาง ซึ่งหากจำเป็นต้องออกกฎหมายหลังจากนี้ก็ต้องทำ.-317-สำนักข่าวไทย