นักเคลื่อนไหวในญี่ปุ่นขอใช้มาตรการเข้มกับกองทัพเมียนมา

Anti-coup protesters display signs and shout slogans as they protest against the military coup in Mandalay, Myanmar, Monday, March 15, 2021. Myanmar’s ruling junta has declared martial law in parts of the country’s largest city as security forces killed more protesters in an increasingly lethal crackdown on resistance to last month’s military coup. (AP Photo)

โตเกียว 23 มี.ค. – นักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาในญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นและประชาคมระหว่างประเทศใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อหยุดการสังหารผู้ประท้วงในเมียนมา รวมถึงการใช้คำสั่งห้ามค้าอาวุธเพื่อกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา


แม้ว่าชาติตะวันตกหลายประเทศได้ประกาศใช้มาตรการลงโทษที่เพิ่มขึ้นกับกลุ่มคนหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาในญี่ปุ่นระบุว่าจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลทหารเมียนมามากกว่านี้ โดยเฉพาะแรงกดดันจากญี่ปุ่น จอ จอ โซ หนึ่งในกรรมการสมาคมพลเมืองแห่งสหภาพเมียนมาในญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรใช้อำนาจที่มีอยู่ เช่น อำนาจทางการทูต การค้า หรือการเมือง เพื่อเจรจาโดยตรงกับเหล่านายพลเมียนมาที่อยู่เบื้องหลังการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงจนทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 261 คน ส่วนประชาคมระหว่างประเทศต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อหยุดการสังหารชาวเมียนมา โดยไม่ทำเพียงแค่การประกาศแถลงการณ์หรือแสดงความคิดเห็น ขณะที่หัวหน้าสมาคมโรฮิงญาแห่งเมียนมาในญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลทหารไม่ควรได้รับการยอมรับไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม และมาตรการลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรัฐประหารนั้นมีความรุนแรงน้อยมาก ทั้งที่จริงแล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรใช้คำสั่งห้ามค้าอาวุธกับเมียนมา เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาก็คือคนกลุ่มเดียวกันที่ออกคำสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในปี 2560

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ในเมียนมานับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร และจะพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การกระทำดังกล่าว ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลือรายใหญ่ของเมียนมา และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่แน่นแฟ้นกับเมียนมามาเป็นเวลานาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง