กทม. 13 มี.ค.-นพ.โอภาส คาดได้ข้อสรุปวัคซีนแอสตราเซเนกา ต้นสัปดาห์หน้า ข้อมูลเบื้องต้น อาการลิ่มเลือดอุดตันไม่น่าจะเกิดจากวัคซีน ลั่นแผนฉีดวัคซีนไทยเป็นไปตามเป้า เดินหน้าฉีดให้ครบ 63 ล้านโดสในปี 64
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุข 19 เปิดเผยถึงประเด็นเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 และความคืบหน้าหลังจากชะลอฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาในไทย ว่า จากข้อมูลที่ได้รับมาเบื้องต้นพบว่า อาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดจากวัคซีนแอสตราเซเนกา สธ.กำลังรอผลการศึกษาข้อมูลจากรายงานขององค์การอนามัยโลกอีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนช่วงต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งหากผลยืนยันออกมาก็จะเดินหน้าฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาได้ทันที
ซึ่งแผนการฉีดวัคซีนของไทย สามารถฉีดไปได้เร็วกว่าแผนที่วางไว้โดยตั้งแต่ 28 ก.พ.-12 มี.ค.64 มีการฉีดไปแล้ว 44,409 โดส ให้กับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายบุคลากรการแพทย์ อสม. รวมถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรสาครและปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังพบการระบาด และยังไม่มีรายงานผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด อาการที่พบส่วนใหญ่เป็นอาการไม่รุนแรง จึงมั่นใจได้ว่าการฉีดในระยะแรกนี้มีความปลอดภัย ให้ประชาชนมีความมั่นใจได้
โดยตามแผนการเป้าหมายได้รับวัคซีนของไทย หลังจากที่สั่งซื้อและจะทยอยได้รับ แบ่งเป็นวัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส และ ครม.อนุมัติให้สั่งซื้อเพิ่มอีก 35 ล้านโดส รวม 63 ล้านโดส ครอบคลุมประชาชนคนไทยจำนวน 30 กว่าล้านคน โดยจะพยายามจัดสรรเข้ามาเพิ่มเติม
โดยตามแผนการจัดหาในปี 64 ก็จะทยอยๆ เข้ามา ตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ได้รับซิโนแวคมาจำนวน 2แสนโดส, มี.ค. จะได้รับอีก 8 แสนโดส, เม.ย. 1 ล้านโดส ส่วนแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดสแรก จากแผนเดิมจะมาในเดือน มิ.ย. 6 ล้านโดส, ก.ค.10 ล้านโดส และ ส.ค. 10 ล้านโดส แต่ได้รับมาแล้วล่วงหน้า 1 แสนโดส ก็จะต้องปรับแผนและเร่งฉีดให้ประชาชนต่อไป ส่วนอีก 35 ล้านโดสที่เพิ่งได้รับอนุมัติซื้อนั้น ตามแผนก็จะมาในเดือน ก.ย. 10 ล้านโดส, ต.ค. 10 ล้านโดส, พ.ค. 10 ล้านโดส และ ธ.ค.อีก 5 ล้านโดส อย่างไรก็ตามแผนจะต้องมีการปรับตามสถานการณ์ ซึ่งก็จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนทุกครั้ง
อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึงที่มีผู้ออกมาบอกว่าแผนการฉีดวัคซีนของไทย ล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่กำหนดนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งแผนการจัดสรรวัคซีนของไทย จะฉีดให้ครบตามแผนอย่างน้อย 63 ล้านโดสให้ได้ภายในปี 64 นี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าแผนการฉีดวัคซีนต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ตามการรายงานผลความปลอดภัยของวัคซีนยี่ห้อต่างๆ ซึ่งแผนการฉีดนั้น ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ขอร้องให้ผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอย่านำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน.-สำนักข่าวไทย