ระยอง 11 ก.พ.- สำนักข่าวไทย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการจับ “หลงจู๊สมชาย” ซึ่งเป็นผลพวงจากการพบผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” ที่แพร่ระบาดจากบ่อนพนันในจังหวัดระยอง
ปฏิบัติการบุกจับ “หลงจู๊” หรือนายสมชาย จุติกิติ์เดชา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการระบาดของ “โควิด-19” ในจังหวัดระยองเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีที่ผ่านมา จนมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีชื่อของ “หลงจู๊” เข้าไปพัวพัน
หลังจากสืบทราบว่า “โควิด-19” แพร่จากบ่อนพนัน เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ และพบจุดต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นสถานที่ตั้งบ่อนอยู่บริเวณหลัง บขส. เก่า เป็นอาคารชั้นเดียวคล้ายโกดัง ริมถนนชิดพันธ์ ตำบลท่าประดู่ การตรวจสอบจากตำรวจในพื้นที่อ้างว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ปรากฏว่ามีกล้องวงจรปิดเป็นจำนวนมากและมีประตูที่สามารถเดินทะลุอาคารพาณิชย์ใกล้เคียง อีกทั้งพบบิลค่าไฟของเดือนธันวาคม 2563 มากเกือบ 70,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่ามีการสั่งย้ายนายตำรวจระดับสูงในพื้นที่ในขณะนั้น ไล่เรียงตั้งแต่ผู้กับการ สภ.เมืองระยอง, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง แม้กระทั่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กรณีปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนพนัน
วันที่ 30 ธันวาคม จเรตำรวจแห่งชาติได้รายงานผลการตรวจสอบกรณีบ่อนดังกล่าวตามคำสั่งของ ผบ.ตร. จนพบว่าบ่อนที่ระยองมีจริง เปิดมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน ไม่ใช่โกดัง จึงมีการสืบสวนขยายผลหาเจ้าของบ่อน
จากนั้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม นายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนัน โดยมีนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน รวมถึงคณะกรรมการจากทั้ง ปปท., ปปง., กระทรวงมหาดไทยและจเรตำรวจ เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
สำหรับการจับกุม “หลงจู๊” เกิดขึ้นก่อนหน้าเพียง 1 วันที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เตรียมส่งรายงาน “ลับ” เพื่อสรุปผลการทำงานให้นายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.).-สำนักข่าวไทย