มติเอกฉันท์ ศาล รธน. ตีตก 2 คำร้องล้มเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญ 2 ต.ค.- ศาล รธน.มติเอกฉันท์ ตีตก 2 คำร้องล้มเลือก สว. เหตุไม่เข้าหลักเกณฑ์กฎหมายกำหนด


ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในคดีที่นายนพดล สุดประเสริฐ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 15 วรรคสาม ที่บัญญัติ ว่า ผู้สมัครมีสิทธิสมัครในกลุ่มตามมาตรา 11 (20) ได้ แม้จะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงานด้านอื่นในกลุ่มอื่น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 วรรคหนึ่งและวรรคสอง หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง นายนพดลขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิในการยื่นคำร้อง ไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และมาตรา 231 (1) กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 47(2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213


นอกจากนี้ยังมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในคดีที่ พล.ต.ท. กฤตไชย ทวนทอง และนายแดน ปรีชา ผู้ร้องรวม 2 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง และเลขาธิการ กกต. และพวกรวม 8 คนร่วมกันดำเนินการประกาศรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ออกประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ลงวันที่ 10 ก.ค.67 ทั้งที่มีเหตุอันควรสงสัยและมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 ระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67 ระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 และระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26มิ.ย.67 มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม การกระทำของ กกต. และเลขาธิการ กกต ที่มิได้สั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยกเลิก การเลือก และสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ทำให้เสื่อมทราม อ่อนแอลง หรือทำลายล้างสถาบันนิติบัญญัติอันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้องทั้งแปดกระทำการใดๆ อันเป็นการใช้ สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 จึงมีมติดังกล่าว .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทัศนศึกษา

ศธ.สั่งงดกิจกรรมทัศนศึกษาไม่มีกำหนด ไม่จำเป็นไม่ต้องไป

รมว.ศธ.สั่งงดกิจกรรมทัศนศึกษาไม่มีกำหนด ไม่จำเป็นไม่ต้องไป แต่หากจำเป็นให้ ผอ.โรงเรียน พิจารณาตามเหมาะสม เร่งดูแลเยียวยาเด็กและครู

คนขับรถบัสไฟไหม้ ย่องเงียบเข้ามอบตัว

คนขับรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ ย่องเงียบเข้ามอบตัว ที่ จ.อ่างทอง ยังไม่ยอมเปิดปากพูด ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทประกัน พบรถคันเกิดเหตุใช้งานมาแล้ว 54 ปี

ย้อนไทม์ไลน์ “บัสมรณะ” คร่าชีวิตครู-นักเรียน

ย้อนไทม์ไลน์เหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา นักเรียนและครูโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

อิหร่านโจมตีอิสราเอล

อิหร่านยิงขีปนาวุธกว่า 200 ลูก โจมตีอิสราเอล

อิหร่านระดมยิงขีปนาวุธกว่า 200 ลูก ข้ามพรมแดนโจมตีอิสราเอล เพื่อแก้แค้นที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัย และทรงห่วงใย เหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

นายกฯ ชี้ทัศนศึกษาเปิดโลก ไม่ได้ทำร้ายเด็ก

นายกฯ เผยให้คมนาคม วางกรอบกฎหมายตรวจสอบรถบัสทั่วประเทศ เล็งหาแนวทางป้องกันใช้บัสเหลืองเหมือนยุโรปด้านสาธารณสุข เร่งเยียวยาจิตใจผู้รับผลกระทบ ชี้ ทัศนศึกษาเปิดโลกไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่ผิดที่สภาพรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ

กรมชลฯ-ผู้ว่าฯ กทม. การันตีน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ แน่นอน

กรมชลฯ-ผู้ว่าฯ กทม. การันตีคนกรุงไม่ต้องกลุ้มใจ มั่นใจน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ แน่นอน ยันสถานการณ์น้ำไม่เยอะเท่าปี 54

รับศพไฟไหม้รถบัส

ญาติรอรับศพเหยื่อบัสนักเรียนไฟไหม้ กลับบ้าน

ญาติเด็กนักเรียนจากเหตุบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ ทยอยติดต่อเข้ารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา คาดการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจะเสร็จในวันนี้ และเริ่มทยอยให้ญาติพาร่างลูกหลานกลับบ้านได้ทันที