กลุ่มดารา-อินฟลูฯ เข้าพบตำรวจ ปคบ. ยันไม่เกี่ยวข้องคดี “แม่ตั๊ก”

บก.ปคบ. 2 ต.ค.-“อัจฉริยะ” นำหลักฐานการไลฟ์โฆษณาเกินจริงของ “เจ๊นุช” มือขวาของ “แม่ตั๊ก” มอบตำรวจ ปคบ. ขณะกลุ่มดารา นักร้อง อินฟลูฯ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยันไม่เกี่ยวข้องคดี “แม่ตั๊ก”


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ 8 คลิป ของ “เจ๊นุช” มือขวาของ นางสาวกรกนก หรือ “แม่ตั๊ก” ที่แสดงถึงการร่วมไลฟ์โฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับอาหารเสริมลดน้ำหนัก และการโชว์ทรัพย์สินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรู และรถหรู รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ไปมอบให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อขอให้ตำรวจดำเนินคดีและขออนุมัติศาลออกหมายจับ “เจ๊นุช” ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ, และร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค รวม 4 ข้อหา

โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า “เจ๊นุช บางเตย” ได้ร่วมกับ “แม่ตั๊ก” ในการทำคอนเทนต์โชว์ทรัพย์สินและเงินต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินต่าง ๆ รวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มแกนนำที่ร่วมกระทำความผิด จึงนำหลักฐานมายื่นให้ตำรวจดำเนินคดี


อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ต้องถูกดำเนินคดีอีกกว่า 20 คน ไม่รวมกลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการพิจารณารายบุคคลถึงเจตนา ส่วนสัปดาห์หน้าตนเองจะนำหลักฐานการกระทำความผิดของ “เจ๊หรั่ง” มือซ้ายของแม่ตั๊ก ไปมอบให้พนักงานสอบสวน พร้อมทั้งจะเดินทางไปร้องเรียน ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินคดีกับกลุ่มของแม่ตั๊ก ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ฐานร่วมกันฟอกเงิน

ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ออกคำสั่งรวมคดีแม่ตั๊กกับพวกทุกคดี ที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ทั่วประเทศ ไปรวมที่ บก.ปคบ. เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งความในภูมิลำเนาของตนเองได้ รวมถึงกรณีทรัพย์สินของแม่ตั๊ก ไม่ว่าจะเป็นตู้เซฟและรถหรูที่หายไป ก็มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลัง และมีคดีที่ยังไม่ค้างคาอยู่ที่ ปปง. ดังนั้นขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาเร่งรัดคลี่คลายเรื่องนี้ พร้อมกันนี้นายอัจฉริยะ ยังบอกด้วยว่า ทุนที่แม่ตั๊กและเบียร์ สามีนำมาซื้อทรัพย์สิน ไม่ได้เกิดจากการค้าขายทั้งหมด แต่มาจากธุรกิจมืดของตำรวจ

นอกจากนี้นักร้องสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” พร้อม “บอล เชิญยิ้ม” และอินฟลูเอ็นเซอร์ “ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์” ยังเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยร่วมงานกับ “แม่ตั๊ก” พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พร้อมกับนำทรัพย์สินมีค่าที่เคยได้รับจากแม่ตั๊กและเบียร์ ส่งมอบให้กับตำรวจตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงิน ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่


โดยเจนนี่บอกว่าหลังพฤติกรรมของแม่ตั๊กถูกแฉ ตนเองก็ถูกกระแสโซเชียลถล่มอย่างหนัก จึงอยากออกมาเคลียร์ทุกอย่างโดยเร็วที่สุด แต่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะยังติดสัญญาพรีเซนเตอร์อยู่ กลัวว่าจะผิดสัญญา และแม้จะรู้จักกันมานาน แต่ที่ผ่านมาก็เชื่อโดยสนิทใจมาตลอดว่าแม่ตั๊กร่ำรวยจริง แต่หลังเกิดเรื่อง ก็ได้นำทรัพย์สินเป็นกำไลที่ได้รับมาจากแม่ตั๊ก มาให้ตำรวจตรวจสอบว่าเงินที่นำมาซื้อกำไลนี้ เป็นเงินบริสุทธิ์ หรือเป็นเงินผิดกฎหมาย หากเป็นเงินผิดกฎหมาย ตนเองก็ยินดีที่จะคืนทรัพย์สินเหล่านี้

ขณะที่บอล เชิญยิ้ม บอกว่า แม้ไม่อยู่ในรายชื่อดาราที่ร่วมไลฟ์ขายทองกับแม่ตั๊ก แต่ก็เคยร่วมงานไลฟ์ขายโกโก้ โปรตีน อาหารเสริมของแม่ตั๊ก เคยไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และงานคอนเสิร์ต ช่วงปี 2565 ตนเองจึงไม่อยากอยู่เฉย ขอออกมาแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมยืนยันไม่ได้สนิทสนมกับแม่ตั๊กนอกเหนือจากงานที่รับ ไม่มีไปกินข้าวกันเป็นการส่วนตัว และไม่เคยรับสิ่งของอื่นใดนอกจากค่าตัวครั้งละ 1 แสนบาท และที่ยอมรับงานไลฟ์ ก็เพราะพิจารณาแล้วว่ามีคนเคยไปร่วมไลฟ์จำนวนมาก จึงคิดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น และพร้อมจะคืนเงินค่าตัวรวมทั้งหมด เพื่อให้นำเงินดังกล่าวไปเยียวยาผู้เสียหาย

ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เปิดเผยว่า เงินและทรัพย์สินที่กลุ่มดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์นำมาวันนี้ เป็นเงินที่เหล่าดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ได้มาอย่างสุจริต ตรวจสอบได้ และเป็นการส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ใช่การนำมาคืน เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็จะทำเรื่องร้องขอคืนภายหลัง ส่วนดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ที่รู้ตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยังไม่มาพบตำรวจ ก็ขอให้รีบมาพบ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมแนะนำด้วยว่าดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ที่จะรับงานไลฟ์เพื่อขายสินค้าทางออนไลน์หลังจากนี้ ให้ระมัดระวังว่าจะเข้าข่ายลักษณะกู้ระดมทุนในการฉ้อโกง หรือแชร์ลูกโซ่ แนะนำให้ไปจดทะเบียนกับ สคบ. ให้ถูกต้อง ส่วนคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำบุญ สามารถทำได้ แต่อย่านำมาใช้หาประโยชน์ในทางธุรกิจ เพราะการให้เงินสดกับผู้อื่น ทำให้ผู้รับไม่ทราบที่มาที่ไปของเงิน. -414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย