กลุ่มดารา-อินฟลูฯ เข้าพบตำรวจ ปคบ. ยันไม่เกี่ยวข้องคดี “แม่ตั๊ก”

บก.ปคบ. 2 ต.ค.-“อัจฉริยะ” นำหลักฐานการไลฟ์โฆษณาเกินจริงของ “เจ๊นุช” มือขวาของ “แม่ตั๊ก” มอบตำรวจ ปคบ. ขณะกลุ่มดารา นักร้อง อินฟลูฯ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยันไม่เกี่ยวข้องคดี “แม่ตั๊ก”


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ 8 คลิป ของ “เจ๊นุช” มือขวาของ นางสาวกรกนก หรือ “แม่ตั๊ก” ที่แสดงถึงการร่วมไลฟ์โฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับอาหารเสริมลดน้ำหนัก และการโชว์ทรัพย์สินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรู และรถหรู รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ไปมอบให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อขอให้ตำรวจดำเนินคดีและขออนุมัติศาลออกหมายจับ “เจ๊นุช” ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ, และร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค รวม 4 ข้อหา

โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า “เจ๊นุช บางเตย” ได้ร่วมกับ “แม่ตั๊ก” ในการทำคอนเทนต์โชว์ทรัพย์สินและเงินต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินต่าง ๆ รวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มแกนนำที่ร่วมกระทำความผิด จึงนำหลักฐานมายื่นให้ตำรวจดำเนินคดี


อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ต้องถูกดำเนินคดีอีกกว่า 20 คน ไม่รวมกลุ่มอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการพิจารณารายบุคคลถึงเจตนา ส่วนสัปดาห์หน้าตนเองจะนำหลักฐานการกระทำความผิดของ “เจ๊หรั่ง” มือซ้ายของแม่ตั๊ก ไปมอบให้พนักงานสอบสวน พร้อมทั้งจะเดินทางไปร้องเรียน ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินคดีกับกลุ่มของแม่ตั๊ก ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ฐานร่วมกันฟอกเงิน

ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ออกคำสั่งรวมคดีแม่ตั๊กกับพวกทุกคดี ที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ทั่วประเทศ ไปรวมที่ บก.ปคบ. เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งความในภูมิลำเนาของตนเองได้ รวมถึงกรณีทรัพย์สินของแม่ตั๊ก ไม่ว่าจะเป็นตู้เซฟและรถหรูที่หายไป ก็มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลัง และมีคดีที่ยังไม่ค้างคาอยู่ที่ ปปง. ดังนั้นขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาเร่งรัดคลี่คลายเรื่องนี้ พร้อมกันนี้นายอัจฉริยะ ยังบอกด้วยว่า ทุนที่แม่ตั๊กและเบียร์ สามีนำมาซื้อทรัพย์สิน ไม่ได้เกิดจากการค้าขายทั้งหมด แต่มาจากธุรกิจมืดของตำรวจ

นอกจากนี้นักร้องสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” พร้อม “บอล เชิญยิ้ม” และอินฟลูเอ็นเซอร์ “ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์” ยังเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยร่วมงานกับ “แม่ตั๊ก” พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พร้อมกับนำทรัพย์สินมีค่าที่เคยได้รับจากแม่ตั๊กและเบียร์ ส่งมอบให้กับตำรวจตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงิน ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่


โดยเจนนี่บอกว่าหลังพฤติกรรมของแม่ตั๊กถูกแฉ ตนเองก็ถูกกระแสโซเชียลถล่มอย่างหนัก จึงอยากออกมาเคลียร์ทุกอย่างโดยเร็วที่สุด แต่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะยังติดสัญญาพรีเซนเตอร์อยู่ กลัวว่าจะผิดสัญญา และแม้จะรู้จักกันมานาน แต่ที่ผ่านมาก็เชื่อโดยสนิทใจมาตลอดว่าแม่ตั๊กร่ำรวยจริง แต่หลังเกิดเรื่อง ก็ได้นำทรัพย์สินเป็นกำไลที่ได้รับมาจากแม่ตั๊ก มาให้ตำรวจตรวจสอบว่าเงินที่นำมาซื้อกำไลนี้ เป็นเงินบริสุทธิ์ หรือเป็นเงินผิดกฎหมาย หากเป็นเงินผิดกฎหมาย ตนเองก็ยินดีที่จะคืนทรัพย์สินเหล่านี้

ขณะที่บอล เชิญยิ้ม บอกว่า แม้ไม่อยู่ในรายชื่อดาราที่ร่วมไลฟ์ขายทองกับแม่ตั๊ก แต่ก็เคยร่วมงานไลฟ์ขายโกโก้ โปรตีน อาหารเสริมของแม่ตั๊ก เคยไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และงานคอนเสิร์ต ช่วงปี 2565 ตนเองจึงไม่อยากอยู่เฉย ขอออกมาแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมยืนยันไม่ได้สนิทสนมกับแม่ตั๊กนอกเหนือจากงานที่รับ ไม่มีไปกินข้าวกันเป็นการส่วนตัว และไม่เคยรับสิ่งของอื่นใดนอกจากค่าตัวครั้งละ 1 แสนบาท และที่ยอมรับงานไลฟ์ ก็เพราะพิจารณาแล้วว่ามีคนเคยไปร่วมไลฟ์จำนวนมาก จึงคิดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น และพร้อมจะคืนเงินค่าตัวรวมทั้งหมด เพื่อให้นำเงินดังกล่าวไปเยียวยาผู้เสียหาย

ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ เปิดเผยว่า เงินและทรัพย์สินที่กลุ่มดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์นำมาวันนี้ เป็นเงินที่เหล่าดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ได้มาอย่างสุจริต ตรวจสอบได้ และเป็นการส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ใช่การนำมาคืน เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็จะทำเรื่องร้องขอคืนภายหลัง ส่วนดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ที่รู้ตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยังไม่มาพบตำรวจ ก็ขอให้รีบมาพบ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมแนะนำด้วยว่าดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์ที่จะรับงานไลฟ์เพื่อขายสินค้าทางออนไลน์หลังจากนี้ ให้ระมัดระวังว่าจะเข้าข่ายลักษณะกู้ระดมทุนในการฉ้อโกง หรือแชร์ลูกโซ่ แนะนำให้ไปจดทะเบียนกับ สคบ. ให้ถูกต้อง ส่วนคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำบุญ สามารถทำได้ แต่อย่านำมาใช้หาประโยชน์ในทางธุรกิจ เพราะการให้เงินสดกับผู้อื่น ทำให้ผู้รับไม่ทราบที่มาที่ไปของเงิน. -414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า