ย่างกุ้ง 9 ก.พ. – การตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประชาชนเมียนมาต้องหยุดชะงักลง หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารที่ทำให้เกิดการต่อต้านด้วยวิธีการอารยะขัดขืนที่นำโดยคณะแพทย์และกลุ่มผู้ชุมนุมทั่วประเทศ
ข้อมูลของทางการเมียนมาระบุว่า เมื่อวานนี้ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชน 1,987 คน เป็นสถิติตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งที่เมื่อสัปดาห์ก่อนสามารถตรวจหาเชื้อได้สูงกว่าวันละ 9,000 คน และสูงกว่าวันละ 17,000 คนในช่วงก่อนเกิดเหตุรัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และตั้งแต่เกิดรัฐประหารก็มียอดตรวจหาเชื้อเฉลี่ยวันละ 9,350 คน ขณะที่เมื่อวานนี้เมียนมาพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพียง 4 คน ซึ่งลดลงอย่างมากจากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 420 คนในช่วงปลายเดือนก่อน อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาปฏิเสธให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว แต่ระบุในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า กระทรวงได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ทั้งยังเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับไปปฏิบัติงานตามเดิมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ถือเป็นแนวหน้าในการประท้วงด้วยวิธีการอารยะขัดขืนที่ต่อต้านรัฐประหาร พวกเขาได้นัดกันหยุดงานเพื่อเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง และยอมรับผลชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ขณะนี้ เมียนมามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 31,100 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 141,000 คน ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีการระบาดรุนแรงในอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.-สำนักข่าวไทย