อังกฤษ 3 ก.พ. – ขณะที่หลายประเทศกำลังพิจารณาอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัทต่างๆ อยู่นี้ มีผลการศึกษาว่า วัคซีนจากบริษัท แอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพเกือบ 80%
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ระบุว่า วัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และบริษัท แอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัส 76% หลังจากได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 3 เดือน และจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งการศึกษาดังกล่าวช่วยหนุนการตัดสินใจของอังกฤษให้ขยายระยะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 12 สัปดาห์ ซึ่งทางแอสตราเซเนกาเองก็สนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ เพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสจะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาให้กับประชาชนที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี หลังจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข ระบุว่า มีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่อผู้สูงอายุ ขณะที่ฝรั่งเศสได้อนุมัติการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาในผู้ที่มีอายุไม่เกิน 65 ปี โดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขฝรั่งเศส เห็นว่า ควรฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 50-65 ปี ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์ เป็นกลุ่มแรก
ก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศสได้อนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค และโมเดอร์นา ไปแล้ว และเป็นการอนุมัติใช้เช่นเดียวกับในอิตาลี ออสเตรีย และเยอรมนี ซึ่งมีการแนะนำว่าไม่ควรฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี. – สำนักข่าวไทย