ประธานบอร์ด การบินไทย แจงไม่มีแผนจ้างที่ปรึกษาการเงิน 630 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 26 ม.ค. – ประธานบอร์ด การบินไทย แจงแผนฟื้นฟูการบินไทยมีความคืบหน้า ยืนยันไม่มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน 630 ล้านบาท


พลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งดำเนินการโดยคณะผู้จัดทำแผนรวม 6 คน และบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับที่ปรึกษาด้านกฏหมาย ที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจการบิน และที่ปรึกษาทางด้านการเงิน โดยการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ประกอบด้วยแผนหลัก 2 ส่วน คือ

  1. แผนธุรกิจ ประกอบด้วยแผนในการจัดหารายได้ ลดรายจ่าย ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ตลอดจนปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการตามแผนงานไปแล้วบางส่วน อาทิ โครงการขอความร่วมมือพนักงานลาหยุดโดยไม่รับค่าตอบแทน โครงการเสียสละเพื่อองค์กร เพื่อลดต้นทุนด้านบุคลากร เป็นต้น โดยในส่วนของแผนธุรกิจนี้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เกือบสมบูรณ์แล้ว
  2. แผนการเงิน ประกอบด้วย แผนการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทุน ซึ่งบริษัท การบินไทยฯ มีเจ้าหนี้จำนวนมาก การชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ จึงต้องเป็นธรรมกับเจ้าหนี้ทุกฝ่าย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบคำขอรับชำระหนี้เพื่อให้มั่นใจว่า หนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูฯ นั้นเป็นหนี้ที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันจำเป็นต้องจัดทำแบบจำลองทางการเงิน เพื่อกำหนดรูปแบบการปรับโครงสร้างทุน โครงสร้างหนี้ และการจัดสรรการชำระหนี้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเสนอให้เจ้าหนี้พิจารณาต่อไป

บริษัท การบินไทยฯ ได้พิจารณาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ ตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกของบริษัทฯ ซึ่งเป็นไปอย่างโปร่งใส เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ และช่วยงานทางด้านการเงินและการบัญชีของบริษัทฯ ในการจัดทำโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างเงินทุนและผู้ถือหุ้น การวิเคราะห์กระแสเงินสด วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตของการบินไทย เพื่อใช้ประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ รวมถึงการนำเสนอแผนฟื้นฟูฯ ในส่วนทางการเงินแก่เจ้าหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางและหลักการทางการเงินถูกต้องและเชื่อถือได้ โดยมีกรอบงบประมาณการว่าจ้างไม่เกิน 60 ล้านบาท และมีระยะเวลาในการทำงานจนกว่าศาลจะให้ความเห็นชอบกับแผนฟื้นฟูฯ โดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินดังกล่าว จะไม่มีหน้าที่ติดต่อหาแหล่งเงินทุนใหม่ให้กับบริษัทฯ แต่อย่างใด ดังนั้น กรณีที่มีข่าวเรื่องการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีค่าตอบแทนสูงถึง 630 ล้านบาท นั้น จึงไม่เป็นความจริง


ในส่วนขอบเขตการจัดหาแหล่งเงินทุนหรือผู้ลงทุนรายใหม่ จะดำเนินการว่าจ้างหลังจากแผนฟื้นฟูฯ ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลแล้ว

เนื่องจากเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทยฯ มีจำนวนมาก มีหลายกลุ่ม และเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน คณะผู้ทำแผนจึงได้เร่งหารือกับเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ เพื่อให้แผนฟื้นฟูฯ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นจากเจ้าหนี้หลายกลุ่ม ได้รับเสียงตอบรับในทางที่ดี ส่วนใหญ่เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูฯ และให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ในการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ อนึ่ง เพื่อให้แผนฟื้นฟูฯ ในส่วนของแผนทางการเงินมีความสมบูรณ์ที่สุด คณะผู้ทำแผนจึงได้พิจารณา ขยายระยะเวลาในการยื่นแผนฟื้นฟูฯ ต่อศาล ออกไปอีกประมาณ 1 เดือน ตามกรอบของกฏหมาย โดยสามารถยื่นแผนฟื้นฟูฯ ได้ประมาณ ปลายเดือน กุมภาพันธ์ หรือ ต้นเดือน มีนาคม 2564

ภายหลังจากที่ผู้ทำแผนได้ยื่นแผนฟื้นฟูฯ แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะส่งสำเนาแผนฟื้นฟูฯ ให้เจ้าหนี้ได้พิจารณา และลงมติในการประชุมเจ้าหนี้เพื่อให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟูฯ โดยจะใช้เวลาประมาณ 1.5 เดือน และเมื่อเจ้าหนี้ให้ความเห็นชอบกับแผนฟื้นฟูฯ แล้ว จะเป็นขั้นตอนของศาลที่จะพิจารณาและให้ความเห็นชอบต่อแผนฟื้นฟูฯ เป็นขั้นตอนสุดท้าย


ทั้งนี้ พนักงาน และฝ่ายบริหารการบินไทยทุกคน มีความมุ่งมั่นและพร้อมให้ความร่วมมือในการสนับสนุนการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ให้ประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะมีความท้าทายต่างๆ ในการทำธุรกิจเกิดขึ้น ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังร่วมมือลดค่าใช้จ่าย และหารายได้เพิ่มให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัท การบินไทยฯ ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งเจ้าหนี้ คู่ค้า และลูกค้าของการบินไทย ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การบินไทยจะสามารถจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ให้สำเร็จไปได้ด้วยดี คณะผู้ทำแผนมีความตั้งใจและมั่นใจว่าการฟื้นฟูฯ ของการบินไทยจะได้รับการยอมรับและประสบผลสำเร็จ โดยเจ้าหนี้ทุกรายจะได้รับชำระหนี้อย่างเป็นธรรม บริษัท การบินไทยฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถกลับมาให้บริการด้านการบินอย่างเต็มรูปแบบได้โดยเร็ว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง