ศิริราช 19 ม.ค.-“นพ.ประสิทธิ์” แจงการเลือกวัคซีนโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ 100% แต่ต้องมีประสิทธิภาพไม่ต่ำ 50% ย้ำความปลอดภัยมาก่อน
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังเริ่มมีการฉีดวัคซีนผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่าขณะนี้มีทั่วโลกอัตราการเพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากข้อมูลการที่หลายเดือนก่อนจะพบว่า โรคต้องใช้เวลาระบาดหลายสัปดาห์กว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มแตะหลักล้านคน แต่ขณะนี้ทุกๆ 3 วัน จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มแตะ 1 ล้านคน และ ยังพบว่ามีบางวันพบผู้ติดเชื้อถึง 1 ล้านคน
ส่วนอัตราการเสียชีวิตพบเฉลี่ยวันละ 10,000 คน ทั้งนี้ ในหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว ยังเร็วไปที่จะติดตามผลว่าวัคซีนได้ผลหรือไม่
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศไทย ที่เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม เพราะเป็นการตรวจเชิงรุก เช่น แรงงานข้ามชาติ ซึ่งถือว่า ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ที่ต้องเฝ่าระวังคือ อัตราการติดเชื้อในประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจเชิงรุก แต่เป็นการติดแบบไม่รู้แหล่งที่มาของการระบาด
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ย้ำว่า การเลือกวัคซีนไม่จำเป็นต้องเลือก 100% แต่ต้องมีประสิทธิภาพไม่น้อย 50% โดยปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยของวัคซีน ต้องไม่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนและอีกปัจจัยคือต้องมีวิธีบริหารจัดการวัคซีนอย่างมีคุณภาพ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้การควบคุมโรคทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกรณีมีผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์เสียชีวิต 23 ราย หลังฉีดไปแล้ว 25,000 คน ถือเป็นตัวเลขที่สำคัญ ก็ต้องไปสอบสวนว่าการเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับวัคซีนที่ฉีดไปหรือไม่
ทั้งนี้ การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น แม้เป็นเรื่องปกติ แต่การกลายพันธุ์อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตวัคซีนโควิด-19 เหมือน วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องมีการปรับปรุงทุกปี เพราะเชื้อมีการกลายพันธุ์
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลว่า ขณะนี้ประเทศที่มีประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุดคือประเทศอิสราเอล อเมริกา และอังกฤษ .-สำนักข่าวไทย