ยธ.18 ธค.- “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ปล่อยตัววันนี้แน่ รมว.ยุติธรรม ลงนามพักการลงโทษแล้ว
นายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะ อนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ เปิดเผยว่า ได้เสนอรายชื่อผู้ต้องขังที่ได้รับการพักการลงโทษให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงนามอนุมัติให้ปล่อยตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติเพื่อใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้ต้องขังที่ได้รับการพักการลงโทษครั้งนี้จำนวน 76 ราย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เช้าวันนี้(18ธ.ค.) นายสมศักดิ์ ได้ลงนามเอกสารที่กรมราชทัณฑ์เสนอมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือส่งหนังสืออนุมัติสั่งการ ไปยังเรือนจำที่มีผู้ต้องขังได้พักการลงโทษ ส่วนจะปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อใด ขึ้นกับความพร้มของเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่เรือนจำต้องพาตัวผู้ได้รับการพักโทษไปติดกำไลอีเอ็มที่ศูนย์ของกรมคุมประพฤติที่อาคารไอทีสแควร์ ซึ่งนายณัฐวุฒิก็เช่นกันต้องเข้าวู่การรายงานตัวเป็นผู้ถูกคุมประพฤติและจะถูกคุมตัวไปใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ที่ไอทีสแควร์ก่อนปล่อยตัว
ขณะที่เมื่อเย็นวันที่ 17 ธันวาคม 2563 กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงมายังสื่อมวลชน ว่า นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษที่มีรายชื่อของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ได้รับการพักโทษในครั้งนี้ด้วยว่าเป็นการได้รับสิทธิพิเศษหรือไม่นั้น ว่า โครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษนักโทษเด็ดขาดที่มีโทษระยะสั้น เป็นโครงการสำหรับพักการลงโทษนักโทษชั้นกลางขึ้นไป ที่ได้รับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษและเหลือโทษที่ต้องได้รับต่อไปไม่เกิน 5 ปี ซึ่งปัจจุบันนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดีมาก โดยถูกจำคุกจากคดีเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ซึ่งมีกำหนดโทษตามคำพิพากษา 2 ปี 8 เดือน และภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 รอบ ที่ 1 คงเหลือโทษจำคุกครั้งหลังสุด 2 ปี 1 เดือน 18 วัน เมื่อหักวันต้องโทษจำคุกมาแล้วจึงเหลือโทษจำคุกอีก 12 เดือน
ซึ่งถือเป็นนักโทษที่มีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษที่นอกจากนายณัฐวุฒิแล้ว ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับความเห็นชอบพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง พิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป และโครงการกำลังใจในพระดำริฯ ที่ถูกนำรายชื่อเข้าประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษเมื่อวันที่17 ธ.ค.63 จำนวนรวม 76 ราย ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ที่นักโทษทุกคนจะได้รับอยู่แล้ว
นายอายุตม์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการพิจารณาเพื่อพักการลงโทษ ดังกล่าว นอกจากพิจารณาจากคุณสมบัตินักโทษที่เข้าเกณฑ์แล้ว รายชื่อทั้งหมดได้ถูกพิจารณาโดยคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เป็นคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณารายชื่อผู้ต้องราชทัณฑ์จากทั่วประเทศ โดยการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษนั้น หากคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษให้ความเห็นชอบแล้วจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอีกชั้นหนึ่ง จึงจะถือว่าได้รับการพักการลงโทษ .-สำนักข่าวไทย