เมลเบิร์น 27 ต.ค. – รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า ไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ติดต่อกัน 2 วันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 เดือน
นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า รัฐวิกตอเรียยังคงมีความเสี่ยงในระดับสูงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาภายในครอบครัว เนื่องจากไม่มีการบังคับใช้นโยบายเว้นระยะห่างทางสังคมในครัวเรือน และเน้นย้ำว่า ชาวรัฐวิกตอเรียสามารถไปมาหาสู่กันได้ แต่ไม่ควรบ่อยครั้งจนเกินไป เนื่องจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนทุกคนจนมาถึงจุดนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่า แต่ก็เปราะบางอย่างยิ่ง รัฐวิกตอเรียที่มีประชากรสูงเป็นอันดับที่ 2 ของออสเตรเลียจะอนุญาตให้ร้านอาหารและคาเฟ่ในนครเมลเบิร์นเปิดบริการได้อีกครั้งตั้งแต่วันพุธนี้หลังประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาเป็นเวลากว่า 3 เดือน แม้รัฐวิกตอเรียจะมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลงและอนุญาตให้ภาคธุรกิจเปิดบริการได้ แต่ทางการก็ยังผ่อนคลายมาตรการจำกัดการรวมตัวของประชาชนไว้เพียงแค่ในที่พักอาศัยเท่านั้น โดยอนุญาตให้ผู้ใหญ่ 2 คน และผู้ร่วมอาศัย 2 คนสามารถไปมาหาสู่กับเพื่อนบ้านได้เพียง 1 ครั้งต่อวัน
มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของออสเตรเลียทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งปิดภาคธุรกิจทั้งหมดเพื่อยับยั้งการระบาด ทั้งนี้ เศรษฐกิจออสเตรเลียหดตัวร้อยละ 7 ในเดือน เม.ย. – มิ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นการหดตัวสูงสุดรายไตรมาสตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 2502 และมีอัตราว่างงานร้อยละ 7.5 ในเดือนกรกฎาคม นับว่าสูงสุดในรอบ 22 ปี. – สำนักข่าวไทย