อิหร่านออกแถลงการณ์การสิ้นสุดคำสั่ง UNSC ที่ห้ามจำหน่ายอาวุธแก่อิหร่าน

เตหะราน 20 ต.ค. – กระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ออกแถลงการณ์เรื่องการสิ้นสุดของคำสั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการคว่ำบาตรด้านอาวุธและการเดินทางต่ออิหร่าน ระบุเมื่อคำสั่งห้ามหมดอายุลงโดยไม่มีเงื่อนไข ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะต้องออกหรือลงมติใหม่เพื่อขยายเวลาการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีก


คำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ห้ามการจำหน่ายอาวุธให้กับอิหร่านและห้ามการเดินทางไปบางประเทศของชาวอิหร่านที่มีผลบังคับใช้มายาวนานได้หมดอายุลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา

การยุติลงของคำสั่งที่กำหนดข้อจำกัดด้านต่างๆต่ออิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการห้ามการจำหน่ายอาวุธให้กับอิหร่านของสหประชาชาตินี้ เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 ที่อิหร่านได้ทำไว้กับชาติตะวันตก


การสิ้นสภาพลงลงของคำสั่งดังกล่าว สำหรับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านแล้ว ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่เหนือสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสหรัฐไม่สามารถหว่านล้อมโน้มน้าวให้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติอื่นๆ ขยายการคว่ำบาตรต่ออิหร่านในเรื่องนี้ออกไปอีกโดยไม่มีกำหนดได้

ก่อนหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจะออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ของอิหร่าน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับประชาชนชาวอิหร่านเกี่ยวกับการสิ้นสุดลงของมาตรการคว่ำบาตรนี้ที่บังคับใช้กับประเทศอิหร่านมานานนับ 10 ปี โดยระบุว่าความสำเร็จนี้เป็นผลจากการต่อสู้ของอิหร่านเพื่อเอาชนะสหรัฐในเรื่องนี้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา


แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า ณ วันที่ 18 ตุลาคม เป็นต้นไป ข้อจำกัดหรือคำสั่งห้ามทุกอย่างในเรื่องการจำหน่ายถ่ายโอนอาวุธ กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อห้ามว่าด้วยการบริการหรือธุรกรรมทางการเงินที่ประเทศต่างๆ มีหรือทำกับอิหร่าน รวมทั้งคำสั่งห้ามพลเมืองและเจ้าหน้าที่ทางการทหารของอิหร่านเดินทางเข้า เดินทางผ่านดินแดนของประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้ มีอันสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ


แถลงการณ์ชี้ว่า เมื่อคำสั่งห้ามของสหประชาชาติสิ้นสุดลง นับจากนี้อิหร่านอาจจะจัดซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นจากแหล่งใดก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านกฎหมาย ขณะเดียวกัน อิหร่านอาจจะส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อการป้องกันประเทศหรือป้องกันตนบนพื้นฐานการตัดสินใจและนโยบายของอิหร่านเอง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง