อธิบดี พช.ลงพื้นที่สกลนครเยี่ยมชมเฮือนนางคราม

สกลนคร 20 ต.ค.- อธิบดี พช. ลงพื้นที่เยี่ยมชม “เฮือนนางคราม” แหล่งอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสกลนครเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก


วันที่ 20 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผอ.สำนักเสริมสร้างภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน พช. ลงพื้นที่เยี่ยมชมเฮือนนางคราม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร และลงมือมัดย้อมผ้าครามด้วยตนเอง โดยมีนายเสกสรร ชนาวิโชติ ประธานหอการค้าจังหวัดสกลนครและผู้จัดการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีสกลนคร จำกัด นางละมุน เร่งสมบูรณ์ กรรมการอาวุโสหอการค้าจังหวัดสกลนคร นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ พัฒนาการจังหวัดสกลนคร และ นางฐิติมา บุญต่าย เจ้าของบ้าน “เฮือนนางคราม” ให้การต้อนรับ

“เฮือนนางคราม” เป็นแหล่งผ้าย้อมคราม OTOP 5 ดาว ภายใต้ชื่อแบรนด์ “นางคราม” ของคุณฐิติมา บุญต่าย เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้การมัดย้อมผ้าครามในครัวเรือนและเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่มีหัวใจอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยการรับซื้อวัตถุดิบ “ผ้าฝ้ายทอมือ” และ “ย้อมสีครามธรรมชาติ” ปราศจากการใช้สารเคมีเจือปนในทุกขั้นตอน มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ดีไซน์สวยทันสมัย


คุณฐิติมา เล่าว่า วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่นำมาใช้เป็นออแกนิค และเป็นวัสดุย้อมครามธรรมชาติ ที่นำมาจากชุมชนใกล้เคียงในจังหวัด ดำรงไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นในการย้อมครามธรรมชาติ ซึ่งชื่อเสียงผ้าย้อมครามของเฮือนนางคราม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะสอดแทรกแนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติเข้าไปในแต่ละขั้นตอน โดยเฉพาะการผลิตครามที่ไม่ปนเปื้อนสารอันตราย ยิ่งกระบวนการย้อมก็ใช้วิธีการแบบดั้งเดิมเพื่อให้ได้สีสันเข้มสวยงาม สีทน ผสมเทคนิคการย้อมและลวดลายผ้าแบบใหม่ออกสู่ตลาดอยู่สม่ำเสมอ ดึงดูดคนทั่วทุกสารทิศเข้ามาเป็นลูกค้า

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า “ผ้าย้อมคราม ถือเป็นมรดกทางภูมิปัญญาชาวสกลนคร ก่อเกิดงานหัตถศิลป์อันเปี่ยมคุณค่าและมีมูลค่าในตัวเอง การส่งเสริมภูมิปัญญาเรื่องผ้าย้อมคราม จึงถือเป็นการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน ขอฝากให้ทางเฮือนนางครามจัดให้นักท่องเที่ยวได้ปรุงคราม ย้อมครามด้วยตนเอง เพื่อจะได้ซื้อกลับบ้านได้เลย และฝากให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกระดับได้น้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” โดยการเข้ามาฝึกในกระบวนการย้อมผ้าฝ้ายมัดคราม ตั้งแต่การปลูกคราม การปรุงคราม การมัดและย้อมคราม รวมทั้งเข้าไปส่งเสริมและพัฒนาเครือข่าย OTOP ให้เชื่อมโยงทุกมิติ ประสานภาคีพัฒนาและหอการค้าจังหวัดสกลนครเพื่อหาข้อมูลด้านตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยเพื่อสร้างคุณค่า ส่งเสริมการสืบค้นและบันทึกคลังภูมิปัญญา ส่งเสริมการรักษาคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ช่วยปรับปรุงร้านเฮือนนางครามเพื่อโชว์สินค้าให้สวยงาม ตลอดจนประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทางสื่อสารมวลชนทุกระดับ เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ปลูกต้นครามในบริเวณเฮือนนางคราม ตามรั้วบ้านและบริเวณใต้ต้นไม้ พร้อมจัดทำเอกสารสิ่งพิมพ์ ทำป้ายประชาสัมพันธ์ 2 ภาษา พร้อมติด QR code ให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวได้สืบค้นข้อมูลได้

โดยเฉพาะจังหวัดสกลนครเป็นแหล่งปลูกครามที่นำมาสร้างสรรค์งานผ้าได้อย่างงดงาม เป็นศิลปวัฒนธรรมของชาวสกลนครสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และมีกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการจำนวนมากได้รับการการพัฒนาจนกลายเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและระดับโลก และ “ผ้าย้อมคราม” เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามสีธรรมชาติที่ได้รับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) และเป็นที่นิยมตามกระแสโลกในเรื่องสินค้าที่เป็นมิตรกับร่างกายและสุขภาพ อีกทั้ง จังหวัดสกลนครยังถือเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยและเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ที่ได้สภาหัตถศิลป์โลกรับรองให้เป็น นครหัตถศิลป์โลก เจ้าแห่งครามธรรมชาติ (World Craft City for Natural Indigo) และได้รับ GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ “ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร”


ทั้งหมดนี้จะทำให้สามารถส่งเสริมผ้ามัดย้อมครามให้มีการพัฒนาคุณภาพ สร้างคุณค่าในผลิตภัณฑ์ทำให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วไป สร้างความเชื่อมั่น มีมาตรฐานคุณภาพมากยิ่งขึ้น มีการสืบสานและพัฒนาสร้างคุณค่าจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สากล ทำให้มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ดีในระดับชุมชน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

สำหรับผู้สนใจที่จะเข้ามาเที่ยวชม เลือกซื้อสินค้าที่ผลิตจากผ้าย้อมคราม หรือมาศึกษาดูงานเป็นหมู่คณะ สามารถแวะเวียนไปที่ร้าน สามารถเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 64 ม.1 ถ.รัฐบำรุง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร หมายเลขโทรศัพท์ 0818712945.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ