นนทบุรี 1 ต.ค. – ตำรวจเผยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ พบเหตุการณ์ครูทำร้ายเด็ก ทั้งอนุบาลและเนิร์สเซอรี เกินกว่า 40 ครั้ง
พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีครูทำร้ายเด็ก กับ พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผู้กำกับการ สภ.ชัยพฤกษ์ เปิดเผยภายหลังประชุมว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ใน 2 ระดับชั้น คือ ชั้นอนุบาลห้องที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งห้องอื่นๆ และระดับเนิร์สเซอรี รวม 10 ห้อง พบกล้องเสีย 16 ตัว ตรวจสอบได้ 15 ตัว และเครื่องสามารถบันทึกได้เพียง 10 วัน เพราะที่เหลือถูกทับข้อมูลไป ส่วนรายละเอียดในกล้อง พบว่า ห้อง E มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเด็ก 29 เหตุการณ์ มีเด็กถูกทำร้าย 10 คน ขณะที่ห้องอื่นๆ เช่น ห้องอาเซียน B C มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 36 เหตุการณ์ มีครูทำร้ายเด็กอนุบาล 7-8 คน
ส่วนกล้องวงจรปิดในชั้นเนิร์สเซอรี มีพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กอีกกว่า 10 เหตุการณ์ ในลักษณะคล้ายกับเด็กอนุบาล ซึ่งวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) คุรุสภา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะเข้าร้องทุกข์เอาผิดโรงเรียนกับพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ โดยจะมีการแยกดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน คือ คดีความเกี่ยวกับเด็ก และคดีเกี่ยวกับสถาบันการศึกษา
ขณะที่การตรวจสอบใบอนุญาตการสอนของครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ตำรวจพบว่า มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ 61 คน ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ที่คุรุสภา และ สช. จะมาพบตำรวจ ตำรวจก็จะหารือในประเด็นนี้ด้วย เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรณีทำร้ายเด็ก หรือกักขังเด็กในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างหาหลักฐานเพิ่ม แต่กรณี “ครูจุ๋ม” ที่ก่อนหน้านี้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ และกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก คือ กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายและจิตใจเด็กไปแล้ว จากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มด้วย
ส่วนนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม วันนี้ได้พาผู้ปกครองของ “น้องเก้า” นักเรียนอนุบาล 1 สามัญอาเซียน ห้องครูแพรว มาแจ้งความเอาผิดกับครูเพิ่มเติม ในข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่ถึง 13 ปี กรณีน้องเก้าถูก “พี่เลี้ยงแวว” แก้ผ้าเปลี่ยนชุดนักเรียนกลางห้องเรียน ซึ่งนอกจากไม่ได้ทำในที่ลับ ยังมีเด็กร่วมชั้นกว่า 30 คน ซึ่งภาพการกระทำผิดปรากฏชัดในคลิปวงจรปิด และมองว่า ค่าเยียวยาเด็กควรอยู่ในหลักล้าน และผู้บริหารกลางในเครือโรงเรียนสารสาสน์ ควรต้องรับผิดชอบ เพราะเปรียบคดีเหมือนการซื้อสินค้า ที่จ่ายค่าเทอมไปเป็นหลักเเสน เเต่กลับได้รับการบริการที่ไม่ดี
ด้านพ่อของน้องเก้า ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ที่ลูกสาวถูกครูพี่เลี้ยง ชื่อ “เเวว” ถอดชุดนักเรียนกลางห้องเรียนต่อหน้าเพื่อน เพราะลูกสาวปัสสาวะรดชุดนักเรียน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ยอมรับเมื่อเห็นภาพวงจรปิดรับไม่ได้ เพราะแม้ว่าลูกยังเล็กอยู่ แต่มองว่าไม่เหมาะสม ควรพาไปเปลี่ยนในที่ลับตาคน เช่น ห้องน้ำ
นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า ช่วง 1 เดือนที่เป็นข่าว เริ่มเอะใจ เพราะลูกกลับจากโรงเรียนบ่นว่าคันบริเวณต้นขา เมื่อตรวจสอบพบขึ้นผื่น รอยแดง จึงพาไปหาหมอ หมอระบุว่า ลูกเป็นโรคผิวหนัง จากนั้นการตรวจสอบคลิปยังพบเรื่องไม่น่าเชื่อ เพราะวันที่ 22 กันยายน ลูกสาวถูก “ครูแพรว” กระชากแขนอย่างแรงจนลูกเซ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับลูก เพราะการกระทำทั้งหมดเหมือนพี่เลี้ยงมักง่าย ยืนยันจะย้ายที่เรียนลูก และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด. – สำนักข่าวไทย