ไฟไหม้ห้องแถวไม้เก่า 70 ปี วอด 17 คูหา

อุดรธานี 3 ก.ย.-เพลิงไหม้ห้องแถวไม้ 2 ชั้นอายุกว่า 70 ปี ที่ถนนหน้าสถานีรถไฟห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ช่วงกลางดึก วอด 17 คูหา ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่อคืนที่ผ่านมา เหตุเพลิงไหม้ห้องแถวไม้ 2 ชั้น ที่ถนนหน้าสถานีรถไฟห้วยเกิ้ง บ้านห้วยเกิ้ง ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นห้องแถวไม้เก่า สร้างมาในยุคสร้างสถานีรถไฟอายุกว่า 70 ปี ปัจจุบันเป็นบ้านพักอาศัย และยังประกอบการค้าบางส่วน โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง ลุกลามไปยังห้องแถวข้างเคียง ที่อยู่บนถนนโพธิ์นิมิตร อย่างรวดเร็ว หน่วยดับเพลิงเทศบาลตำบลห้วยเกิ้ง นำรถดับเพลิง-รถน้ำฉีดน้ำสกัด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เนื่องจากเป็นอาคารไม้เก่าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี


ต่อมานายสุชาติ ทอนมณี นายอำเภอกุมภวาปี เดินทางอำนวยการการดับเพลิง ร่วมกับ พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี และ นายธงชัย รัตวร นายกเทศมนตรีตำบลห้วยเกิ้ง พร้อมขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงจาก อปท.ใกล้เคียงในพื้นที่กว่า 30 คัน เข้ามาช่วยสกัดเพลิง ซึ่งใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด

นางสุดใจ ขาวกุลชร อายุ 84 ปี บอกว่าขณะอยู่หน้าบ้าน เห็นกลุ่มควันไฟพวยพุงขึ้นมาจำนวนมาก แล้วชาวบ้านได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตะโกนบอกว่าไฟไหม้บ้าน จึงเดินออกมายืนดูกลางถนนเห็นไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงได้วิ่งไปบอกลูกสาวที่อยู่ภายในบ้านให้ช่วยกันเอาของสิ่งที่มีค่าอยู่ในบ้านขนออกมา ด้วยความกลัวตนเอาแต่ร้องไห้ แล้วยกมือขึ้นบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้าน


เบื้องต้นพบว่าห้องแถวทั้งหมด อยู่ในการครอบครองของ 5 ครอบครัว เพลิงได้เผาผลาญไป รวม 17 คูหาเหลืออยู่เพียง 5 ห้อง โดยบริเวณจุดต้นเพลิงยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบห้องแถวถูกไฟเผาผลาญทั้งหมด 10 คูหา ที่เหลืออีก 7 คูหา เสียหาย 70% และอีก 6 คูหา โรงไม้ 1 โรง ไม่ถูกเพลิงไหม้ โดยมีบางส่วนที่ใช้ประกอบการค้า และส่วนใช้เป็นที่พักอาศัย ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้าน พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จะเข้ามาตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้หลายสาเหตุ ที่ทำให้เกิดไฟไหม้ คือ 1.ไฟฟ้าลัดวงจร 2.อาคารที่เป็นไม้เก่าที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี 3.จุดเกิดเหตุที่ถูกปิดไว้ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิงได้อย่างยากลำบาก และ 4.ขณะเกิดเหตุไฟฟ้ายังไม่ถูกตัด ทำให้การดับเพลิงยากขึ้น เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบว่ามีการลุกไหม้เป็นหย่อมๆ ที่จะเป็นในลักษณะของการวางเพลิง แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ แต่ต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบก่อนดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง