“ทักษิณ” ปราศรัยครั้งแรกรอบ 18 ปี

อุดรธานี 13 พ.ย.- “ทักษิณ” ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกรอบ 18 ปี ยันไม่ครอบงำนายกฯ มั่นใจขึ้นค่าแรง 400 บาทได้แน่ ชมเห็นแวว ‘อิ๊งค์’ นั่งนายกฯ แต่เด็ก


เวลา 16.35 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงเวทีปราศรัยที่วัดศรีนคราราม ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภาวปี จังหวัดอุดรธานี โดยทันทีที่มาถึงได้ขึ้นกราบนมัสการ พระราชวัชรสุทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี โดยพระราชวัชรสุทธิ์ ได้มอบเหรียญพระเจ้าใหญ่ ให้กับนายทักษิณ พร้อมสนทนาตอนหนึ่ง ว่า ขอให้นายทักษิณหมั่นนั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อให้จิตใจผ่องใส ไม่วุ่นวาย มีความสุข จะได้เป็นที่พึ่งของลูกหลาน ประชาชน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัติย์

พระราชวัชรสุทธิ์ ได้สอบถามกับนายทักษิณ ในช่วงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณ ตอบกลับว่า 17 ปีที่ผ่านมาก็ต้องอดทนอดกลั้น และต่อไปนี้ตนจะขอกลับมาทำนุบำรุงศาสนา พร้อมกับหันกลับไปฝากกับทีมงานว่า หากขาดแคลนอะไรให้แจ้งมา


จากนั้น นายทักษิณ ได้เดินขึ้นมาทักทายประชาชน รับดอกไม้จากมวลชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังปราศรัย และมาให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวว่า คิดฮอดพี่น้องคนอุดรหลายเด้อ นี่ 18 ปี เพิ่งจะได้ปราศรัยครั้งนี้ครั้งแรก ปราศรัยที่อุดร ที่บอกว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง จากไป 18 ปีนี้ รวยขึ้นหรือยัง แต่ก่อนตอนที่ตนเองอยู่ คนอุดรมีควายหลายตัว แต่วันนี้เหลือกี่ตัว ขายหมดแล้ว เหลือแต่ชีวิต ควายไม่เหลือ เหลือแต่ชีวิต คนไม่ทันตอนที่ตนเองเป็นนายกฯ ตอนเป็นนายกฯ 20 กว่าปี ตอนนี้แก่แล้ว อายุ 75 ปีแล้ว

นายทักษิณ ระบุว่า วันนี้ขอเล่าความในใจนิดหนึ่ง ที่มาที่นี่ก็ขอพูดเล่นก่อนแล้วกันค่อยพูดจริง ตอนนี้กลับมาประเทศไทยมีเงินเดือน 700 บาท ค่าเบี้ยคนชรา วันนี้นายศราวุธ เพชรพนมพร ก็จ้างมาหารำไพ่พิเศษวันละ 300 บาท เพราะกลัวไม่พอกินข้าว แต่ตอนนี้จวนจะ 400 แล้ว เหลือเทคนิคนิดหน่อย แต่จริง ๆ แล้วอยากมาขอบคุณพี่น้อง โดยเฉพาะคนอุดร ที่ไม่เคยลืมตนเองเลย เงิน 10,000 บาทได้แล้ว เดี๋ยวมาอีก ใครอายุเกิน 60 เห็นว่าเงิน 10,000 จะมาแล้วพี่น้อง ตนเองเลือกมาที่อุดร เพราะว่าอยากมาขอบคุณพี่น้องชาวอุดรที่ 17 ปีที่ออกไป ไม่เคยลืม ตั้งแต่ตอนที่ อดีตนายก อบจ. วิเชียร ลงเลือกตั้งนายก อบจ. ได้เขียนจดหมายมาพี่น้องก็เลือกกันถล่มทลาย แต่วันนี้นายศราวุธ ลงสมัครเอง ตนเองมาเอง ไม่ต้องเขียนจดหมาย มาตัวเป็น ๆ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า เป็นห่วงเรื่องปัญหาหนี้สิน ความยากจน วันนี้เป็นห่วงคนไทย โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ที่เขาบอกว่าแม่ติดหวย พ่อติดเหล้า ลูกติดยา ขอให้พี่น้องอย่าเล่นหวยมาก เก็บเงินไว้ทำมาหากิน อยู่เมืองนอกมา 17 ปี ที่อยู่ได้ เพราะยึดหลักคำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้จักจิตปล่อยวาง ไม่ไปลุ่มหลง แต่หากไปเห็นอะไรก็จะนึกถึงประเทศไทย 17 ปีไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่ แต่ในใจคิดอย่างเดียวว่า “กูต้องกลับ แต่จะกลับอย่างไร ไม่รู้ ขอแค่สู้ไปเรื่อย ๆ”


นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ได้กลับมา กลับมากราบพระเจ้าอยู่หัว ได้กลับมากราบพระพุทธศาสนา ได้กลับมาเจอพี่น้องประชาชน วันนี้ขอแอบนินทาลูกสาว คือนายกฯ อิ๊งค์ เขาบอกว่า พ่อ วันนี้อิ๊งค์ต้องห่วงชาวบ้านที่เป็นหนี้เยอะ ช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาอย่างไรดี แต่วันนี้มีทางออกแล้ว เดี๋ยวมีบอกว่าเราจะลดหนี้ให้ชาวบ้านอย่างไร เราจะทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้อย่างไร

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเองไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบงำลูก เพราะตนเองรักลูกแบบเกรงใจมาก ฉะนั้น จึงขอให้ลูกครอบงำแทน บางครั้งนั่งคุยกัน แต่ก็สั่งตนเอง สั่งให้ทำนั่นทำนี่ให้หน่อย สิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงคือเรื่องหนี้สิน และเรื่องของรายได้ แล้ววันนี้บอกว่าเบื้องต้นการให้เงินคนละ 10,000 บาท เป็นสิ่งจำเป็นเริ่มต้น เพื่อให้ชาวบ้านตั้งหลัก พร้อมกันนี้ ต้องลดหนี้ และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้ทางการเกษตร และทางด้านโอกาสของประชาชน

นายทักษิณ กล่าวว่า นายกฯ อิ๊งค์บอกอีกว่า เป็นห่วงชาวบ้าน เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ เราจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีการศึกษาได้ดีกว่านี้ สิ่งหนึ่งที่ตนพูดกับลูก คือเราต้องเปลี่ยนทัศนคติของคนไทย อย่าไปมุ่งเอาประกาศนียบัตร บางคนในกรุงเทพ เรียนแล้วเรียนอีก ก็ไม่ได้ทำให้ฉลาดขึ้น เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว การเรียนอย่างเดียวไม่พอ วันนี้เห็นบอกว่าหารายได้มาช่วยเรื่องการศึกษาเด็กแล้ว วันนี้เราจึงพยายามจูงใจให้นักลงทุนนำเงินมาลงทุนในประเทศ เพื่อสร้างงาน และมีรายได้มากขึ้น แต่ตนบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัด แล้ววันนี้เห็นแล้วว่าระหว่างที่นั่งรถมามีร้านที่เปิดใหม่มากขึ้น แต่มันเงียบหน่อย เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ

นายทักษิณ กล่าวว่า ขอให้ฟังให้ดี พี่น้องช่วยไปบอกพ่อค้าขายยาด้วยว่า “วันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณเกลียดพ่อค้าขายยามาก ไม่อยากเห็นหน้าแม่งสักคน” แล้วอย่าลืมไปบอกตำรวจด้วย เห็นใจตำรวจ เพราะตอนที่ตนเองไม่อยู่ การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจต้องเสียเงิน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายในสังคมไทยในช่วงที่ตนเองไม่อยู่ 17 ปี ฉะนั้น จึงสงสารตำรวจ ต่อไปนี้นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า ต่อไปนี้จะไม่มีการใช้เงินในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ แล้วยาเสพติดจะหายไปไม่ยาก และวันนี้นายกฯ อิ๊งค์ จึงบอกว่าจะจับมือกลับอนุทิน เพื่อจัดการกับยาเสพติด และขอให้ประชาชนอย่าไปชินชากับมัน เราต้องจัดการกับมัน และตนไม่ชินชากับพวกนี้เด็ดขาด

”วันนี้เวลาที่คุณอิ๊งค์สั่งงานอะไร ผมก็รู้สึกว่า ผม ผมยาวแล้วเหรอ หน้าตาเหมือนหรือไม่ เหมือน แต่ว่าเขาสวยกว่าผม แต่ผมหล่อกว่า“ นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ เล่าย้อนไปถึงสมัยที่หาเสียง ว่า นายกฯ อิ๊งค์เคยไปด้วย ซึ่งก็เห็นแววตั้งแต่ตอนนั้นว่าจะเป็นนายกฯ ที่ดี และจะดีกว่าตนเอง เพราะเป็นตอนอายุยังน้อย เชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นจากตนเอง จะเป็นกำลังสำคัญในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน และประชาชนต้องหายจนแน่นอน ขอให้ทำงานไปสักระยะ แล้วเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องค่าแรง แม้จะมีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย แต่ก็เชื่อว่าจะแก้ได้ และตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็สามัคคีกันดีอยูี ขอให้เบาใจได้ ว่ากลับมาแล้ว ตนเองอยู่ทั้งคน เห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ ซึ่งวันนี้ตนเองได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองคือ สทร. เสือก ทุก เรื่อง

“อย่าลืมผม ผมกลับมาแล้ว แล้วอย่าลืมกาเบอร์สอง หากไม่รู้ว่าเบอร์สองชื่ออะไร ชื่อทักษิณแล้วกัน กาทักษิณแล้วกัน” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ขอให้นายศราวุธ ทำหน้าที่ให้ดี หากเลือกตั้งสมัยหน้า จะได้เป็นรัฐมนตรี และได้ทำหน้าที่ให้ประชาชน และตนจะมาเยี่ยมใหม่ ซึ่งตนไม่อยากเลี้ยงอาหารคนอุดร เพราะถ้าเลี้ยงอาหารคนอุดร เดี๋ยว กกต. จะจับแพ้ฟาล์ว-716.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]