สธ.1ก.ย.-สธ.เตรียมช่วยเมียนมา ฝึกอบรมตรวจแล็บค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 และให้แนวทางป้องกันควบคุมโรค เว้นระยะห่างหลังสถานการณ์น่าห่วง ส่วน 2โรงเรียนในจ.ประจวบคีรีขันธ์สั่งปิดเรียนชี้เร็วเกินไป
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี 2 โรงเรียนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ปิดเรียน 7 วัน หลังพบผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียนเดินทางกลับมาจากเมียนมา ข้ามพรมแดนธรรมชาติ ว่า เกณฑ์การปิดโรงเรียนของไทย จะทำต่อเมื่อพบเด็กป่วย หรือบุคลากรในโรงเรียนป่วย หากไม่มีใครป่วยติดโควิด-19 ก็ไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียน เพราะเด็กไม่ป่วยครูไม่ป่วย โอกาสติดโรคย่อมมีน้อย
การสอบสวนโรคในขณะนี้ ให้พื้นที่ติดตามตรวจสอบประวัติ พ่อแม่ของเด็กนักเรียนที่เดินทางกลับมาจากเมียนมาว่า มาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่าเดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงอาจไม่ใช่ช่วงที่มีการระบาดหนัก และทางรัฐยะไข่ได้มีการประกาศปิดเมืองวันที่ 24 สิงหาคม ดังนั้น ไม่อยากให้เกิดความตื่นตระหนก เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ปกครองกับตัวเด็ก หากไม่สบายใจก็ให้เด็กหยุดเรียน เพื่อนนักเรียนไม่มีความเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องหยุดเรียน
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในเมียนมา ขณะนี้ พบผู้ป่วยสะสม 882คน เสียชีวิต 6 คน พบผู้ป่วยมากสุดในรัฐยะไข่ และย่างกุ้ง การระบาดเริ่มพบหนักในวันที่ 16 สิงหาคม และมีมาตรการปิดเมือง ประกาศเคอร์ฟิว หลังเวลา 21.00-04.00 น.เมื่อวันที่ 24สิงหาคมที่ผ่านมา คาดว่า 2-3สัปดาห์ หากสามารถควบคุมโรคได้ดี เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น มาตรการตามแนวชายแดนไทย-เมียนมานั้น ได้มีการประสานฝ่ายปกครอง ให้เพิ่มเฝ้าระวังป้องกัน หากพบผู้เดินทางกลับมาจากเมียนมา นอกจากกักตัว 14 วันใน state quarantine แล้ว ในกลุ่มแรงงานหรือคนต่างด้าว ก็ให้มีการเฝ้าระวังการป่วยเป็นกลุ่มก้อน โรคทางเดินทางหายใจหรือไข้หวัดด้วย หากมีการป่วยมากกว่า 5 คน ให้มีการสุ่มตรวจหาโควิดทันที
นพ.โสภณ กล่าวว่า ความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 ในประเทศเมียนมา ทำให้ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิด ที่จะให้การช่วยเหลือด้วยการอบรมเพิ่มความรู้ให้ในกลุ่มบุคลากรด้วยกัน ในเรื่องของการค้นหาผู้ป่วยด้วยการตรวจห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และการแลกเปลี่ยนความรู้ในการควบคุมโรค เน้นการเว้นระยะห่าง เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค หากสามารถลดการพบปะการติดต่อกัน เชื่อว่าสถานการณ์การระบาดของโรคจะลดลง .-สำนักข่าวไทย