กรุงเทพฯ 18 ก.ค.-ที่อนุสาวรีย์ประชาธิไตย ตลอดทั้งวันมีความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตา เพราะกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และกลุ่มเยาวชนปลดแอกนัดรวมตัว ท่ามกลางการคุมเข้มของตำรวจ
กลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และเยาวชนในชื่อกลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free Youth รวมตัวกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อแสดงออกแนวคิดทางการเมืองที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ กทม.ได้นำไม้ดอก ไม้ประดับ มาตกแต่งพื้นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้านตำรวจ นำทีมโดยพลตำรวจตรีสมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กำกับดูแลความมั่นคง นำกำลังตำรวจ 2 กองร้อย (300 นาย) มาคอยดูแลสถานการณ์ และบางส่วนได้นำแผงเหล็กมากั้น ไม่ให้กลุ่มที่เดินทางมา เข้าพื้นที่อนุสาวรีย์
จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มมวลชนที่ส่วนใหญ่แต่งชุดดำได้ทยอยเข้ามาในพื้นที่จนแน่น และผู้จัดการชุมนุมได้นำโครงเหล็กมาเตรียมตั้งเวทีและพากันวิ่งไปกลางถนน ทำให้กลุ่มคนที่อยู่ในเขตแนวกั้นของเจ้าหน้าที่บนบาทวิถี พากันล้มแผงกั้นวิ่งตามลงไปบนถนน ทำให้ช่องจราจรบนถนนราชดำเนินกลางขาออกเหลือให้รถวิ่งได้เพียง 2 ช่องทาง ก่อนที่ตำรวจจะเข้าเคลียร์พื้นที่
ต่อมา นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ แกนนำกลุ่มสหภาพนิสิต นักศึกษาและนักเรียนแห่งประเทศไทย ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า การมารวมตัวกันวันนี้เป็นสัญญาณเตือนถึงรัฐบาลว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถูกนำมาใช้ควบคุมประชาชน ยิ่งนำกฎหมายมาใช้ในทางที่ไม่ชอบ วันนึง กฎหมายจะหมดความศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยิ่งเพิ่มจำนวน และพยายามผลักแผงเหล็กกั้นของเจ้าหน้าที่ ขยายพื้นที่การปราศรัย มีการมานั่งฟังบนพื้นถนน ทำให้การจราจรถนนราชดำเนินเริ่มติดขัด ทำให้ พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลงพื้นที่มาด้วยตัวเอง และประกาศว่า การชุมนุมไม่ได้ขออนุญาต อย่างไรก็ตาม เพื่อลดการปะทะได้บอกว่าหากมีการชุมนุมต่อเนื่องข้ามวัน จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ และยืนยันว่า ทุกการดำเนินการของตำรวจจะยึดหลักกฎหมาย ซึ่งล่าสุดมีการตรึงกำลังบริเวณโดยรอบฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ปล่อยให้รุกล้ำเข้าไปหลังแผงเหล็กกั้น และระดมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อยมาเตรียมรับสถานการณ์เพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรวมตัวครั้งนี้ กลุ่มเยาวชนบอกไว้ว่า มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ให้รัฐบาลประกาศยุบสภาทันทีหลังบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวโดยเฉพาะการเกิดถ้าระบาดของโควิด-19 หยุดคุกคามประชาชน ด้วยการใช้กฎหมายและข้ออ้างความมั่นคงปิดปากประชาชน และเรียกร้องให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่.-สำนักข่าวไทย