บก.ปปป. 8 พ.ย. – “อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่ามีข้าราชการกระทรวงมหาดไทยช่วยผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง แก้ไขเปลี่ยนแปลงสูติบัตรและบัตรประชาชนเพื่อขยายระยะเวลาเกษียณของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันพบว่ายังคงดำรงตำแหน่งอยู่และยังไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ จึงมาร้องเรียนให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ และขอให้ตรวจสอบหากพบการกระทำความผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าหลังจากที่นายษิทรา ได้แถลงข่าวเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชนเรื่องก็เงียบไป เกรงว่าจะมีความไม่ชอบมาพากลในเรื่องดังกล่าว หรืออาจมีการพูดคุยเบื้องหลังกันเพื่อให้ปิดคดีหรือไม่
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า กรณีเงิน 39 ล้านบาท แม้นายษิทราจะถูกดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังมีตัวละครอีก 2-3 ราย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องและคาดว่าจะถูกออกหมายจับในเร็ว ๆ นี้ ส่วนการที่นายษิทรา ถูกดำเนินคดีมองได้แบบ 2 นัย คือนัยแรกนายษิทราไปรู้ความลับของผู้ใหญ่มาก และนัยที่สองคือนายษิทรา ยอมถูกคุมขังโดยไม่ยื่นประกันตัวเอง แต่ยอมให้ภรรยายื่นประกันเพราะอาจให้เหตุผลว่าต้องออกมาดูแลลูกที่ยังเล็ก หรือต้องการให้ภรรยาออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแทน เนื่องจากภรรยาก็รู้จักกับพยานที่ออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจอยู่แล้ว และอาจทำให้มาดามอ้อยเกิดความสงสารถอนแจ้งความได้
นายอัจฉริยะ ยังบอกว่า ตัวเองได้ประสานไปยังบ้านพระอาทิตย์เพื่อสอบปากคำพยานที่เป็นนักวิชาการเพราะเชื่อว่าพยานรายนี้จะให้การที่เป็นประโยชน์กับ มาดามอ้อย
เมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึงทนายตั้มหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ไม่ฝากอะไรถึงทนายตั้มเพราะเขาเก่งอยู่แล้ว.- 419- สำนักข่าวไทย