รมว.ศธ.ตรวจเยี่ยม รร.เปิดเทอมวันแรก จัดป้องกันโควิด-19เข้มข้น

กทม.1 ก.ค.-รมว.ศธ.ตรวจเยี่ยมโรงเรียนเปิดเทอมวันแรก พบจัดมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้น  ขณะที่การเรียนออนไลน์ พบบางแห่งยังไม่พร้อมเรื่องอุปกรณ์และการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างครูกับนักเรียน 




บรรยากาศการเปิดเทอมวันแรกที่โรงเรียนโยธินบูรณะ เขตบางซื่อ มีการใช้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตั้งแต่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าให้ผู้ปกครองส่งนักเรียนด้านหน้า ไม่ให้วนรถเข้ามาส่งภายในโรงเรียน จากนั้นให้นักเรียนเดินต่อแถวและยืนเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ตามจุดที่กำหนดไว้ ก่อนที่ครูเวรจะใช้เครื่อง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมให้เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ ก่อนเดินเข้าภายในอาคารเรียน จะมีเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้ง ขณะที่ภายในห้องเรียนมีกิจกรรมเคารพธงชาติหน้าห้องเรียน การจัดโต๊ะเรียนโดยเว้นระยะห่าง 1 เมตร นักเรียนและครูสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จำกัดห้องละไม่เกิน 20-25 คน


นายณรงค์ คงสมปราชญ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบูรณะ เปิดเผยว่า การเปิดภาคเรียนในวันนี้ มีนักเรียนเดินทางมาครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด 3,300 คน เป็นนักเรียนในระบบภาคปกติ แบ่งตามเลขที่ชั้น สลับกันมาเรียน โดยในสัปดาห์นี้เป็นเลขคี่ ส่วนเลขคู่จะเรียนผ่านระบบการเรียนการสอนแพลตฟอร์มออนไลน์ Microsoft Team (ไมโครซอฟท์ ทีม) และ Mooddle (มูดเดิ้ล) ที่ทางโรงเรียนจัดทำขึ้น ใช้ตารางเวลาสอนเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถเรียนออนไลน์ย้อนหลัง เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปได้

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเปิดภาคเรียนวันแรกพร้อมติดตามการเรียนการสอน แสดงความเป็นห่วงปัญหาการเรียนการสอนภายในห้องเรียนที่เป็นห้องปรับอากาศ อาจมีเรื่องการถ่ายเทอากาศที่ไม่เหมือนในโรงเรียนที่เปิดโล่ง แจ้งทางผู้บริหารโรงเรียนปรับเวลาการพักระหว่างเรียนลดความเสี่ยง 

นอกจากนี้การเรียนผ่านระบบออนไลน์ พบว่า บางส่วนยังไม่มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์และการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างครูกับนักเรียน อยากให้ทุกๆโรงเรียนปรับแก้ไขให้มีความยืดหยุ่นในการเรียนการสอน ย้ำให้ทุกโรงเรียนดำเนินไปตามมาตรการป้องกันโรค แต่หากพบมีการติดเชื้อภายในโรงเรียนเกิดขึ้น มีแนวทางปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนตามสถานการณ์ โดยจะเป็นการร่วมกันทำงานในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง                        ย้ำจะไม่เกิดขึ้นหากทุกฝ่ายช่วยกันและการ์ดไม่ตก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง