กทม. 16 พ.ค.-รองผู้ว่าฯ กทม.ตรวจความเรียบร้อยเปิดเทอมวันแรก เน้นลงดูโรงเรียนขนาดเล็ก หวังส่งเสริมให้คุณภาพทัดเทียมโรงเรียนใหญ่ ย้ำครูตรวจเข้มเฝ้าระวัง กัญชา-บุหรี่ไฟฟ้า ขณะพ่อแม่มาส่งลูกหลานคึกคัก ย้ำยังให้สวมแมสก์
บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกที่โรงเรียนวัดราชนัดดา เขตพระนคร ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้าผู้ปกครองทยอยนำบุตรหลานมาส่งในวันเปิดเทอมวันแรก โดยโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียน 60 คน เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 เด็กนักเรียนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบ ขณะที่ผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาส่งส่วนใหญ่ยังคงกำชับให้ลูกหลานสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าโรงเรียน โดยโรงเรียนยังคงมาตรการรักษาความสะอาดโดยมีจุดล้างมือแอลกอฮอล์ที่หน้าโรงเรียน
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนในสังกัด และเปิดเผยว่าเหตุผลที่เทอมนี้ ลงตรวจที่ขนาดเล็ก เพราะ กทม. มีโรงเรียนในสังกัดทั้งหมด 437 โรงเรียน ในจำนวนนี้ มี 47 โรงเรียน ที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้บ้าน จึงอยากส่งเสริมให้โรงเรียนขนาดเล็กในกทม.ให้มีคุณภาพทัดเทียมกับ โรงเรียนขนาดใหญ่ด้วย อัตราส่วนครูต่อนักเรียน ดีกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ แต่อาจต้องเพิ่มเติมเทคโนโลยี
โดย กทม.มีนโยบายการศึกษา 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน มาตรฐานห้องเรียน มีห้องปลอดฝุ่น 2. เรื่องครู หลายโรงเรียนยังมีอัตราครูที่ขาด จึงต้องเร่งเติมตำนวนครูให้ได้ จ้างธุระการมาช่วยลดภาระครู และนำและนำเทคโนโลยีมาใช้ 3.เรื่องหลักสูตรที่การศึกษาเริ่มนำร่องแบบใหม่ 34 โรงเรียน โดยจะใช้หลักสูตรตามฐานสมรรถนะ ใช้สกิลเบจนักเรียนเป็นฐาน หากเก่งด้านใดแล้ว ก็สามารถไปเรียนเสริมด้านอื่นได้ และ 4.เรื่องผู้ปกครอง กทม.จะช่วยสวัสดิการ เช่น อาหารเช้า ชุดนักเรียน กทม.ก็มีให้ฟรี เพื่อช่วยลดภาระ
ส่วนเรื่องมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ยังคงแนะนำมาตรการต่างๆไว้ เช่นมีจุดล้างมือ รักษาความสะอาด ซึ่งขณะนี้ ที่น่ากังวลมากกว่าคือเรื่องของกัญชาและบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน ซึ่งได้มีการกำชับครูสอดส่องดูแลนักเรียน และให้ความรู้นักเรียนถึงอันตรายของทั้งกัญชาและบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งพยายามดึงดูดเด็กเยาวชนมากขึ้น
ด้านผู้ปกครอง ของนักเรียนชั้นอนุบาล 2 คนหนึ่งบอกว่า ลูกอยากกลับมาโรงเรียนมากเพราะปิดเทอมไปนานสองเดือนคิดถึงเพื่อน ส่วนอุปกรณ์การเรียนต่างๆก็ซื้อเตรียมไว้แล้ว การป้องกันตัวเองจากโรคต่างๆก็ยังแนะนำให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยและพยายามล้างมือบ่อยๆ
ขณะที่คุณยายของเด็กชายชั้น ป.1 คนหนึ่ง บอกว่าเทอมนี้หลานขึ้นระดับชั้นใหม่ วันนี้จึงสวมใส่ชุดรองเท้าใหม่ทั้งหมด เป็นเงินมากกว่าพันบาท ยังดีที่รร.กทม.ยังมีงบอุดหนุนชุดนักเรียนฟรี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปไปได้.-417.-สำนักข่าวไทย
