สิงคโปร์ 28 ส.ค. – รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศในวันพฤหัสบดีว่า จะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกับบุหรี่ไฟฟ้าผสมสารเสพติดตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป โดยจะเปลี่ยนการจัดประเภทสาร “อีโทมิเดท” (etomidate) จากเดิมที่เป็นสารพิษมาเป็นยาเสพติด
ผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งผสมสารดังกล่าวจะถูกลงโทษด้วยการปรับเงินและต้องเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูภาคบังคับนานถึง 6 เดือน จากเดิมที่จะถูกปรับเท่านั้น ขณะที่ผู้นำเข้าสาร “อีโทมิเดท” ซึ่งเป็นยาสลบที่ใช้ในการแพทย์เพื่อทำให้ผู้ป่วยหลับชั่วคราวระหว่างการผ่าตัด จะต้องถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนสูงสุด 15 ครั้ง และจำคุกสูงสุด 20 ปี จากเดิมที่เคยจำคุกสูงสุดแค่ 2 ปี
การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 2018 แต่ทางการเพิ่งจะเริ่มปราบปรามอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่บุหรี่ไฟฟ้าผสมสารเสพติดเริ่มแพร่หลาย รัฐบาลระบุว่า จากการสุ่มตรวจบุหรี่ไฟฟ้าที่ยึดได้ในเดือนกรกฎาคม พบว่าหนึ่งในสามของทั้งหมดมีส่วนผสมของสาร “อีโทมิเดท”
แถลงการณ์ร่วมจากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นพาหะในการนำพาสารอันตราย เช่น สาร “อีโทมิเดท” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า สาร “อีโทมิเดท” ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้ใช้ รวมถึงผลกระทบต่อสมอง และการใช้สารนี้มีความเชื่อมโยงกับกรณีการเสียชีวิตที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุปกติตามธรรมชาติ รวมถึงอุบัติเหตุร้ายแรงด้วย
การจัดประเภทสาร “อีโทมิเดท” เป็นยาเสพติดนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งถือเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อใช้บทลงโทษที่รุนแรงขึ้นในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เข้มงวดกว่าเดิม ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสแรกของปี 2026
รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคมระบุว่า สาร “อีโทมิเดท” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำมันอวกาศ” (space oil) ในฮ่องกง ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติดอันตรายในฮ่องกงและจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่ามีการพบสารดังกล่าวในผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าในอินโดนีเซียและไทยด้วย โดยในประเทศไทยยังพบสารเคตามีนและยาบ้าในตัวอย่างบางส่วนอีกด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย